ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขอกำลังสนับสนุนจากคณะสมาชิกพญาอินทรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับไฟในพื้นที่อำเภอแม่แตง เข้าดับไฟในพื้นที่อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่เกิดจุด Hotspot สูงที่สุดของวันนี้
วันที่ 9 เมษายน 2563 จากรายงานจุด Hotspot ของศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ตามข้อมูล GISTDA ในช่วงเช้าวันนี้ พบจุด Hotspot จำนวน 114 จุด อยู่ในพื้นที่เกษตรในป่าอนุรักษ์ 8 จุด พื้นที่รับรองสิทธิ์ในพื้นที่ คทช. 2 จุด ซึ่งมีแนวโน้มลดลง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมติดตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งการเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟในพื้นที่ 5 อำเภอ ที่เกิดจุด Hotspot สูงที่สุดของวันนี้
ในวันนี้พบจุด Hotspot เกิดขึ้นสูงสุดที่อำเภอแม่แตง จำนวน 24 จุด ซึ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ขอกำลังสนับสนุนจากคณะสมาชิกพญาอินทรี และเครือข่ายอาสาสมัครหน่วยพญาอินทรีย์เข้าไปร่วมการดับไฟกับเจ้าหน้าที่ดับไฟของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอแม่แตงโดยด่วน โดยได้นำอุปกรณ์ในการดับเพลิง ทั้งเครื่องสูบน้ำ 55 แรงม้า และสายดับเพลิง ที่สามารถต่อยาวถึง 2,500 เมตร มาช่วยสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ หากต้องการร้องขออากาศยานในการช่วยดับไฟ สามารถร้องขอมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ได้ทันที
ด้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งทุกอำเภอ กรณีพื้นที่ใดเป็นพื้นที่สูงชัน ห่างไกล ซึ่งกำลังภาคพื้นไม่สามารถเข้าถึง และยากต่อการเข้าไประงับเหตุได้ จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์แนวทางในการเผาชน ขอให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้องมีเหตุผลประกอบการทำแนวไฟเผาชนที่สอดคล้องกับพื้นที่ เนื่องจากการทำแนวทางในการเผาชนอาจทำให้จุด Hotspot เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นให้แจ้งมายังศูนย์บัญชาการฯจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประกอบการพิจารณาความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ ยังให้หน่วยการบิน บูรณาการร่วมกับกรมป่าไม้ ในการบินสำรวจสังเกตการณ์ในพื้นที่ที่เกิดการไหม้ซ้ำซากอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรากฏภาพในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน รวมถึงสนับสนุนภารกิจปฏิบัติการทิ้งน้ำร่วมกับกำลังภาคพื้น ในการดับไฟตอที่เหลือให้สนิท ก่อนถอนกำลังออกมา
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งไปยังทุกอำเภอสำรวจพื้นที่ที่ต้องการจะบริหารจัดการเชื้อเพลิง ทั้งในพื้นที่การเกษตร พื้นที่ชุมชน รวมถึงพื้นที่ในเขตอุทยานป่าไม้ และดำเนินการรวบรวมข้อมูล มาประชุมร่วมกับทางจังหวัดภายในกลางเดือนนี้ เพื่อวางแผนในการบริหารพื้นที่ ในการจัดการเชื้อเพลิง รวมถึงวางกำลังเพื่อป้องกันในการเกิดไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น