พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ตรวจติดตามและควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นประจำทุกวัน สร้างความเป็นธรรมในการจับจ่ายสินค้าให้กับประชาชน ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
วันที่ 16 เมษายน 2563 นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้หลายพื้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จึงได้บูรณาการกับภาคีเครือข่าย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ออกตรวจติดตามสภาวะและราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค ที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพของพี่น้องประชาชนเป็นประจำทุกวัน เพื่อเฝ้าระวังผู้ประกอบการร้านค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทั้งตามห้างและร้านค้าต่างๆ ในเขตพื้นที่ตัวเมืองและในแต่ละอำเภอ เช่นเดียวกับการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ก็ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคอยสืบสวน สอบสวนหาตัวผู้ที่จำน่ายสินค้าออนไลน์ราคาเกินควรนำไปดำเนินการตามกฎหมาย และจะขยายผลสืบสวนกลับไปยังโรงงานผู้ผลิตด้วย
ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการตรวจสอบที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะพบการกระทำผิดของผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด เนื่องจากขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการของประชาชน จึงคิดฉวยโอกาสที่จะสร้างกำไร ล่าสุด สามารถจับกุมและดำเนินคดีได้แล้วถึง 8 ราย และหลังจากนี้จะพยายามควบคุมการจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้มีปริมาณเพียงพอ และมีราคาที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด โดยหากเป็นหน้ากากอนามัยแบบที่ใช้ทางการแพทย์ จะถูกควบคุมให้อยู่ในราคาชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท ส่วนหน้ากากอนามัยที่นำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องดูในส่วนของราคาต้นทุนนำเข้า รวมกับค่าบริหารจัดการ ซึ่งในส่วนนี้จะไม่ให้เกิน 23 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่นำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ จะต้องมีเอกสารชี้แจงรายละเอียดสินค้าจากร้านค้าในประเทศต้นทางด้วย เพราะหากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารดังกล่าว จะถือว่ามีความผิดเช่นกัน
ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าในช่วงนี้ ไม่ให้มีการกักตุนสินค้า หรือจำหน่ายสินค้าสูงเกินสมควร รวมทั้งติดป้ายแสดงราคาให้ทราบอย่างชัดเจน หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการดังกล่าว จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท ส่วนมาตรการอื่นๆ ในการดูแลความเป็นธรรมในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับพี่น้องประชาชน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้ขอความร่วมมือห้างร้านต่างๆ รวมถึงร้านค้าผู้ผลิตรายใหญ่ ในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายให้มีเพียงพอต่อผู้บริโภคภายในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งห้างร้านทุกแห่งจะมีแหล่งผลิตสินค้าอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะไม่เพียงพอ และไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้า
สำหรับประชาชนที่พบการกระทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าราคาเกินควร สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่ง หรือโทรแจ้งสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายใน
