ประกันสังคมแจงเงินกองทุน 2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ครบ พร้อมจ่ายเงินสิทธิว่างงาน
นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรม สํานักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสํานักงาน ประกันสังคมชี้แจง ต่อความกังวลของผู้ประกันตนและสื่อมวลชนในประเด็นเงินกองทุนประกันสังคม ทั้งหมดกว่า 2 ล้านล้านบาทหายไปไหนกองทุนมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน และกรณี อื่นๆ หรือไม่นั้น ขอเรียนว่า กองทุนว่างงาน ปัจจุบันมีเงินกองทุนว่างงานอยู่จํานวนกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน โดยสํานักงานประกันสังคมได้ประมาณการเบื้องต้น พบว่า จากจํานวนผู้มาขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน 1.2 ล้านคน คาดว่าจะคิดเป็นเงินทั้งหมดจํานวน 20,000 – 30,000 ล้านบาท ซึ่งสํานักงานฯ มีเงินกองทุนเพียงพอ ที่จะนําไปจ่ายสิทธิประโยชน์ดังกล่าว โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้เตรียมสํารองสภาพคล่องไว้รอการจ่ายเงินแล้ว ขอให้ผู้ประกันตนวางใจ ว่ากองทุนมีเงินกองทุนเพียงพอ นอกจากนี้ เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ครบถ้วน มิได้หายไปไหน
เงินลงทุนกองทุนประกันสังคม ณ 31 มีนาคม 2563 จํานวน 2,032,841 ล้านบาท ลงทุนใน หลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่ กระทรวงการคลังค้ําประกัน หุ้นกู้บริษัทเอกชนที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และหน่วยลงทุนตราสารหนี้ ต่างประเทศ จํานวน 1,671,176 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของเงินกองทุน และลงทุนในหลักทรัพย์ อาทิ หุ้นสามัญ หน่วยลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หน่วยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน ทองคํา จํานวน 361,665 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18 ของเงินกองทุน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ที่กําหนดให้ต้องมีสัดส่วนหลักทรัพย์มั่นคงอย่างน้อย ร้อยละ 60 ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลจะมีปริมาณ ที่สูงกว่าหลักทรัพย์ประเภทอื่น เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สร้างรายได้ที่สม่ําเสมอให้กับกองทุน
และประเด็นกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือจากประกันสังคมที่ล่าช้า ในเรื่องนี้กระทรวงแรงงาน โดย สํานักงานประกันสังคมได้ดําเนินการนําเรื่องการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยให้ ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนจากภัยอันเกิดจากโรคที่แพร่หรือระบาดในมนุษย์ โดยกฎหมายได้ประกาศ ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันศุกร์ ที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 18.30 น ซึ่งสํานักงานประกันสังคมเริ่มทยอย จ่ายเงินกรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนกลุ่มแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563 จนกระทั่งปัจจุบันสรุปข้อมูล ณ วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 มีจํานวนผู้ประกันตนมายื่นขอใช้สิทธิจํานวน 1,177,841 ราย ได้สั่งจ่าย ให้แก่ผู้ประกันตนไปแล้วทั้งสิ้น 426,358 ราย อยู่ระหว่างดําเนินการ 243,974 ราย และอยู่ระหว่างติดตาม นายจ้างจํานวนกว่า 50,000 สถานประกอบการให้เข้ามารับรองสิทธิลูกจ้างจํานวน 507,509 ราย
และเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการของกระทรวงแรงงาน เร่งระดมประสานงานติดตามนายจ้างจํานวนกว่า 50,000 ราย ให้เข้ามารับรองการหยุดงาน รวมทั้งสํานักงานประกันสังคมจะได้ออกหนังสือแจ้งนายจ้างให้เข้ามา รับรองการหยุดงานของลูกจ้างกลุ่มดังกล่าว เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเสียสิทธิ์ จากการติดตามพบว่า
– มีประมาณร้อยละ 20 เป็นสถานประกอบการที่เปิดทําการปกติและจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ประมาณการลูกจ้างจํานวนกว่า 100,000 คน
– มีประมาณร้อยละ 10 เป็นสถานประกอบการที่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ประมาณการลูกจ้างจํานวนกว่า 200,000 คน
– คงเหลือจํานวนลูกจ้างที่คาดว่าจะมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งสํานักงานประกันสังคมกําลังเร่งให้ นายจ้างดําเนินการรับรอง สั่งจ่ายในกลุ่มนี้อีกกว่า 200,000 ราย
ทั้งนี้ขอเรียนชี้แจงแก่ลูกจ้างผู้ประกันตนว่าการรับเงินว่างงานกรณีเหตุสุดวิสัยนั้นจะต้องเป็น กรณีที่นายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราวและไม่จ่ายเงินค่าจ้าง ให้แก่ลูกจ้างประกอบกับลูกจ้างนั้นจะต้อง จ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไขในการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานคือมีการนําส่งเงินสมทบครบหกเดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนย้อนหลัง ทั้งนี้สํานักงานประกันสังคมมีกรอบในการปฏิบัติงานภายใต้ พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องขออภัยหากการดําเนินการจะไม่สามารถ เป็นไปตามที่นักวิชาการหรือผู้มีความเห็นต่างๆ ได้แนะนําภายในระยะเวลาอันรวดเร็วภายใต้วิกฤตเช่นนี้ อย่างไรก็ดีสํานักงานประกันสังคมขอน้อมรับที่จะนําไปปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆที่ทุกท่านได้มีความเห็นเสนอมา