สธ.ห่วงเข้าหน้าฝน ไข้เลือดออกระบาดซ้ำโควิด ผ่าน 5 เดือนแรกของปี ป่วยแล้วกว่า 13,006 คน เสียชีวิตแล้ว 10 ราย
วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 กรมควบคุมโรค เผยจากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 18 พ.ค. 63 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 13,006 ราย เสียชีวิต 10 ราย โดยจากข้อมูลการกระจายของผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยภูมิภาคที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ ตามลำดับ
กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุด 10-14 ปี (อัตราป่วย 69.81 ต่อประชากรแสนคน) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5-8 ปี(54.20) และ 15-19 ปี(50.84) ส่วนจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ระยอง ชัยภูมิ ขอนแก่น และราชบุรี ตามลำดับ
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจําสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก เพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งเป็นฤดูระบาดของโรคไข้เลือดออก และแม้ว่าจํานวนผู้ป่วย ณ ช่วงเวลาเดียวกัน ในปี 63 จะมีรายงานผู้ป่วยน้อยกว่าปี 62 ก็ตาม แต่ข้อมูลพยากรณ์อากาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ในช่วงนี้มีมรสุมพัดปกคลุมทําในหลายพื้นที่ของไทยจะมีฝนตก พายุฝนฟ้าคะนอง และหากฝนตกอาจทําให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้
กรมควบคุมโรค ขอแนะนําให้มีการกําจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบริเวณบ้านและในชุมชน ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้ 1.เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุม อับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดํา และนําไปทิ้งลงถังขยะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝา ให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และ 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถป้องกันไม่ให้ยุงกัดได้ โดยใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ใช้สารไล่ยุง ชนิดต่างๆ เช่น DEET ใช้กลิ่นกันยุง เช่น ตะไคร้ หรือสารเคมีอื่นๆ นอนในมุ่ง และหากมีอาการไข้สูงปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หน้าแดง มีผื่น มีรอยช้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามลําตัว แขน ขา เบื่ออาหาร จุกแน่นลิ้นปี่ หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422