กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ ตลาดสดจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและอนามัยสิ่งแวดล้อม คัดแยกขยะทุกวัน และล้างตลาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันมิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หนู สัตว์นำโรคมาสู่คน
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวประเทศจีนพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อกาฬโรคในเมืองบายันนูร์ เขตมองโกเลียนั้น สำหรับประเทศไทยแม้จะยังไม่พบโรคดังกล่าว แต่สถานประกอบการที่ต้องเฝ้าระวังและมีความเสี่ยงของแหล่งเพาะพันธุ์หนูที่เป็นสัตว์นำโรคนี้มาสู่คนคือตลาดสด ซึ่งต้องคุมเข้มความสะอาด ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ โดยต้องกำจัดแหล่งอาหาร กำจัดเศษอาหาร เศษผักผลไม้ ต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด และนำไปกำจัดอย่างถูกต้องหรือนำไปหมักทำปุ๋ย หรือเป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งหมั่นล้างทำความสะอาดถังขยะ และไม่ให้มีเศษอาหารหรือกลิ่นอาหารอยู่ในท่อน้ำทิ้ง ทำความสะอาดพื้นที่ห้องครัวสม่ำเสมอ รางระบายน้ำ กำจัดน้ำโสโครกอย่างถูกวิธี ไม่ให้อุดตันและมีเศษอาหารตกค้าง และควรปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกตลาดด้วยลวดตาข่าย แผ่นโลหะ คอนกรีต อิฐ หิน เหล็ก หรือกระเบื้องหนา ๆ หรือวัสดุอื่น ๆ นอกจากนี้ควรมีการล้างตลาดเดือนละครั้ง หรือหากอยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโรคควรล้างตลาดตามหลักการสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเน้นที่ 3 จุดสำคัญ ได้แก่ พื้น เขียง แผง เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้ชิดและสัมผัสอาหารมากที่สุด หากไม่สะอาด หนูอาจจะมาแทะกินเศษอาหารที่ติดตามพื้น เขียง แผง กลายเป็นเส้นทางผ่านเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การล้างตลาดที่ถูกหลักสุขาภิบาลมี 2 ขั้นตอนสำคัญคือ ขั้นที่ 1 การล้างด้วยน้ำและผงซักฟอก เพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หาก มีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผงทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน และขั้นที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัวรดน้ำและลดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว สำหรับบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะ และก๊อกน้ำสาธารณะที่ใช้ในตลาดต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วย และล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคได้
“ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดโรคโควิด 19 กรมอนามัยเน้นย้ำทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า และผู้ใช้บริการ ให้ยึดปฏิบัติในมาตรการหลักตลอดเวลาคือ การลงทะเบียนเข้า-ออกตลาด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือก่อนและหลังเข้าออกตลาด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
Cr.กระทรวงสาธารณสุข