(มีคลิป Video) “เชียงใหม่จะไม่ทน too” ชุมนุมแฟลชม็อบรอบที่สองลานประตูท่าแพ ชูป้ายขอรัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษา พร้อมทั้งประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณเกือบ 200 คน ได้จัดกิจกรรมแฟลชม็อบรอบที่สอง ซึ่งนำโดย นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ อายุ 26 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายธนาธร วิทยเบญจางค์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกลุ่มแกนนำแฟลชม็อบ “เชียงใหม่จะไม่ทน too” หลังจากที่ครั้งแรกได้จัดชุมนุมไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมาและมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมกว่า 1,000 คน
โดยในส่วนของบรรยากาศวันนี้ พบว่าประชาชนได้ค่อยๆ เดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ค่อยคึกคักเท่ากับครั้งแรก และจำนวนคนน้อยกว่าหลายเท่า และเหตุการณ์ยังคงเป็นไปอย่างสงบ ซึ่งมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ภายในการจัดกิจกรรมวันนี้ก็ได้มีการพูดปราศรัย และการประกวดป้าย ประกวดการแต่งกายด้วย โดยประเด็นที่ปราศรัยนั้นยังคงมุ่งเรื่องของการศึกษา การที่ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน นักเรียน นักศึกษา และยังได้ประกาศว่า หากนักศึกษา และนักเรียนที่ถูกอาจารย์คุกคาม ก็ขอให้มาปรึกษาได้ เพราะอาจารย์ไม่มีสิทธิคุกคามหรือแจ้งรายชื่อนักศึกษาที่เข้าร่วมการชุมนุมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ก็ได้ขอให้รัฐบาลยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งระหว่างการแก้ไขนั้นก็ขอให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 40 ก่อน รวมถึงการขอให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมากขึ้น
ทั้งนี้ทางด้าน นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ หนึ่งในแกนนำ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วโดยจัดตามเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้จัด และเพื่อให้การจัดแฟลชม็อบที่ไม่ซีเรียสเกินไป ก็ได้จัดประกวดเรื่องป้าย และเรื่องการแต่งกาย เพื่อให้ทุกคนมาร่วมสนุก ร่วมการแสดงออก บางคนอาจจะไม่กล้าชูป้าย ก็นำป้ายมาวางร่วมกันได้ ส่วนประเด็นหลักๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม และที่ผ่านมาหลายๆ จังหวัดรวมถึงการจัดที่เชียงใหม่ ก็ยังคงถูกคุกคามอยู่แล้วมีหลายเครสที่มีเจ้าหน้าที่บุกไปถึงบ้าน จึงมาแสดงออกเรื่องของการขอให้หยุดคุกคาม ขอให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ แล้วให้ร่าง รธน.ใหม่ ในระหว่างนี้ก็ขอให้ใช้ รธน. 40 ไปก่อน แล้วในส่วนของภูมิภาคก็อยากให้มีการกระจายอำนาจสู่ภูมิภาคที่มากขึ้น
สำหรับเรื่องที่มีการโจมตีว่าการนำป้ายที่ไม่เหมาะสมมาแสดงออกด้วย ในส่วนนี้จะมีการควบคุมอย่างไร นายประสิทธิ์ ชี้แจงว่า ขอถามกลับว่า “คำว่าไม่เหมาะสม” คืออะไร แล้วอะไรที่เรียกว่าเหมาะสมและไม่เหมาะสม แล้วถ้าเป็นข้อเท็จจริงและนำมาแสดงออกจะถามกลับว่าเป็นความเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น เอาอะไรมาเป็นเกณฑ์วัดเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ซึ่งม็อบก็มีความหลากหลายที่มากขึ้น หลายจังหวัดก็มีความหลากหลายเหมือนกัน จึงไม่สามารถไปจำกัดภาพการแสดงออกของประชาชนได้ หากจะไปควบคุมก็ต้องไปถามว่า เขาต้องการสื่อสารอะไรก็ต้องสอบถามในแต่ละบุคคลไป
ในวันนี้ที่แกนนำในการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 63 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกพบเพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา แล้วทางแกนนำทั้งหมดได้มีการเลื่อนพบนั้น ไม่ใช่เพราะการจัดแฟลชม็อบในวันนี้ แต่สาเหตุแท้จริงเพราะได้ปรึกษากับทางทนายความแล้ว ซึ่งทางทนายความยังไม่พร้อม แต่จะพร้อมในวันที่ 30 ก.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งทางแกนนำทั้งหมดก็จะเดินทางไป
