ภาคประชาชน แนะปักหมุดแบ่งแนวเขตลานหน้าห้างฯแยกรินคำให้ชัดเจน และเก็บพื้นที่ไว้เพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์
วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมธาริน โดยกลุ่มภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้นำท้องถิ่น พลเมืองจิตอาสาของจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดเวทีเสวนา “จาวบ้าน จาวเวียง เพื่อเมืองเจียงใหม่ เรื่อง : ข่วงสาธารณะรินคำ จะอนุรักษ์ไว้หรือทุบทำถนน” โดยได้มีการอ่านจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมทางหลวง โดยระบุว่า ตามที่ กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 กําลังดําเนินโครงการปรับปรุงทางหลวงผ่านย่านชุมชน ในทางหลวงหมายเลข 11 ตอนอุโมงค์ – กองบิน 41 ระหว่าง กม. 562+523 – กม.562+651 ด้านขวาทาง ปริมาณงาน 0.128 กม. เริ่มต้นสัญญาวันที่ 28 กันยายน 2561 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยจะมีการรื้อช่วงรินคําในเขต ทางหลวงออกทั้งหมด รวมทั้งรื้อย้ายต้นไม้ใหญ่ เส้นทางน้ําธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นสาธารณสมบัติที่กีดขวางการ ก่อสร้างออกทั้งหมด เพื่อทําเป็นถนนสําหรับรถยนต์เพิ่มอีก 2 ช่องทางและไหล่ทางรวมความกว้างผิวทางประมาณ 10 เมตร ความละเอียดทราบแล้ว นั้น
โครงการก่อสร้างดังกล่าว จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ในทุกมิติ ซึ่งกําหนดวิสัยทัศน์ไว้ ว่า “นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง” (City of Life and Prosperity) (เมืองที่ให้ความสุขและชีวิตที่มีคุณค่าแก่ผู้อยู่ อาศัยและผู้มาเยือนในฐานะเมืองที่น่าอยู่และน่าท่องเที่ยวในระดับโลก) และยังได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างมากระหว่าง กรมทางหลวงและภาคประชาชนในพื้นที่ และระหว่างกลุ่มประชาชนด้วยกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศไปสู่ความ สามัคคีและความสุข ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล กอปรกับได้มีนโยบายของรัฐบาลและกระทรวง คมนาคมเกี่ยวกับการสร้างถนนที่ให้เน้นความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green and Safe) และสอดคล้องกับ บริบทของเมือง รวมทั้งการออกแบบถนนในเมืองที่จะต้องให้สิทธิความเสมอภาคต่อผู้ใช้ถนนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้เดินเท้า และผู้ใช้จักรยาน
ฉะนั้น ในนามของผู้แทนภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้นําท้องถิ่น พลเมืองจิต อาสาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเรียนเชิญท่านอธิบดีกรมทางหลวงโปรดสละเวลามาลงพื้นที่ก่อสร้างและรับฟังข้อมูลความ คิดเห็นต่างๆ จากทุกภาคส่วนด้วยตนเองโดยตรง เพื่อนําไปสู่การตัดสินใจที่เหมาะสมและอย่างสร้างสรรค์ในการพิจารณา ปรับปรุงแก้ไขแบบก่อสร้างฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
ทางด้านของ รศ.ชูโชค อายุพงศ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางภาคประชาชนและภาคนักวิชาการทราบดีว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นของทางหลวง ซึ่งทางหลวงสามารถเรียกคืนพื้นที่ดังกล่าวจากเอกชนได้ตลอดเวลา แต่กรณีที่จะมีการรื้อพื้นที่บริเวณลานดังกล่าวเพื่อทำเป็นถนนนั้น ทางด้านภาคประชาชนและภาคนักวิชาการเห็นว่า ลานดังกล่าวเป็นแลนด์มาร์คของเชียงใหม่ไปแล้ว การที่จะเอาไปทำถนนนั้น ไม่ได้ช่วยในการแก้ไขปัญหาจราจรเลย โดยได้แนะวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ด้วยการปักหมุดเพื่อแบ่งแนวชัดเจนว่า ส่วนไหนเป็นของเอกชน ส่วนไหนเป็นของทางหลวง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทางเอกชนก็จะไม่สามารถมาจัดกิจกรรมบนพื้นที่ของทางหลวงได้ และยังได้เสนอให้มีการทำป้าย เพื่อบอกความชัดเจนว่าพื้นที่ที่มีการกันแบ่งเขตไว้เป็นของทางหลวง และยังเสนอให้เก็บลานนี้ไว้ไม่ทุบทำถนน เพื่อพัฒนาทำเป็นพื้นที่สาธารณะของประชาชน ให้ประชาชนได้ใช้ทำกิจกรรม โดยห้ามไม่ให้ทางเอกชนลุกล้ำเข้ามาใข้พื้นที่ของทางหลวงได้อีก
ข่าว-ภาพ : ทีมข่าว CM108.COM
ข่าว : กลุ่มทวงคืนพื้นที่ แถลงข่าว กรณีลานน้ำพุหน้าห้างดัง แยกรินคำ รุกล้ำทางหลวง
2
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หารือแนวทางปรับปรุงทางหลวง บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเมญ่า
Live สด! “ฝ่ายไม่อยากให้ทุบ”ภาคประชาชน นักวิชาการ ฯลฯ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไม่ต้องการให้ทุบและรื้อพื้นที่ลานน้ำพุแยกรินคำ โดยขอให้มีการทำแนวเขตกันระหว่างพื้นที่ของทางหลวงและเอกชนให้ชัดเจน และนำพื้นที่ดังกล่าวไปทำประโยชน์สาธารณะต่อไปwww.CM108.com รายงาน
โพสต์โดย จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2019