สภ.สารภี แจ้งเตือน! สภ.สารภี แจ้งเตือน! หลังพบมิจฉาชีพสาวสารภีเปิดบ้านแชร์ทองหลอกให้ลงทุน ก่อนจะเชิดเงินหนีหาย พบความเสียหายหลัก 100 ล้านบาท
วันที่ 27 สิงหาคม 2563 เฟซบุ๊ก สถานีตำรวจภูธรสารภี ได้ประชาสัมพันธ์ถึงกรณีที่มีมิจฉาชีพชักชวนให้ลงทุน โดยหากใครมาชวนคุณ ลงทุนออมเงิน หรือออมเงินรูปแบบต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต หรือถูกชักชวนตามบ้าน ขณะนี้มีการแจ้งความไว้ ณ สภ.สารภี ความเสียหายหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งทาง สภ.สารภี มีผู้มาแจ้งความ และทางตำรวจจะได้ติดต่อประสานกับคู่กรณี หรือหากไม่มีพบจะออกหมายจับดำเนินคดีต่อไปนั้น
สำหรับรายงานเพิ่มเติมนั้น เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่วันที่ 26 ส.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 กลุ่มผู้เสียหาย จำนวนกว่า 10 ราย จากกรณีการถูกหลอกให้ลงทุนบ้านแชร์ทองราคาถูกจาก น.ส.มีน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี อดีตพนักงานบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการชักชวนให้ซื้อทองคำรูปพรรณในราคาถูก โดยมีเงื่อนไขว่า หากลงทุน 10,000 บาท จะได้ทองน้ำหนักมูลค่า 1 บาท แต่ต้องใช้ระยะเวลา 1 เดือนถึงจะได้รับทองคำ หากลงทุนช่วงโปรโมชั่น ราคาทองคำ 1 บาท เงิน 10,000 บาท ต้องรอประมาณ 20 วัน ซึ่งโปรโมชั่นจะมีตั้งแต่ 3 วัน 7 วัน 15 วัน หรือ 1 เดือน เป็นต้น โดยในช่วงแรกๆ ที่มีการลงทุนไปก็จะได้ทองคำตามเงื่อนไขที่ตกลง แต่พอนานเข้าก็เริ่มถูกบ่ายเบี่ยง และทาง น.ส.มีน (นามสมมุติ) มักจะอ้างว่าประสบปัญหาเรื่องโควิดระบาดวงเงินเลยกระทบกันหมด จนกระทั่งมีปัญหากันมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.63 ที่ผู้เสียหายหลายรายเริ่มรู้ว่าถูก น.ส.มีน (นามสมมุติ) หลอกลวง และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนมีตั้งแต่น้อยสุดหลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักล้านบาท จึงได้มีการมารวมตัวกันและนำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้
โดยทางด้าน น.ส.ภัทรปรียา อายุ 29 ปี ชาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้รู้จักกับ น.ส.มีน (นามสมมุติ) เพราะเป็นเพื่อนของแฟน และได้ถูกชักชวนให้มาร่วมลงทุนเพราะเห็น น.ส.มีน (นามสมมุติ) โพสต์ข้อความหน้าเฟซบุ๊ก โดยมีการซื้อทองคำรูปพรรณในราคาถูกจึงเกิดความสนใจและได้ทัก น.ส.มีน (นามสมมุติ) โดยในครั้งแรกที่ลงทุนก็พบว่าได้ผลตอบแทนกลับมาตลอด และได้ลงทุนไปเรื่อยๆ ประมาณ 7 เดือน จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่ตนได้นำเงินลงทุนกับ น.ส.มีน (นามสมมุติ) ไปประมาณ 12 ล้านบาท หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหาในเดือน พ.ค.63 โดยทาง น.ส.มีน (นามสมมุติ) อ้างว่าได้โอนเงินเกินไปให้ลูกค้ารายอื่น และทางฝั่งลูกค้ารายนั้นยังไม่ได้โอนเงินคืนมา ซึ่งหากได้เงินคืนก็จะเอามาคืนให้ตน รวมถึงผู้เสียหายทุกคน นอกจากนี้ยังบ่ายเบี่ยงอ้างว่าวงเงินเต็ม และก็ไม่สามารถทวงเงินคืนได้ แต่ทาง น.ส.มีน (นามสมมุติ) ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหว สามารถติดต่อได้ เพียงแต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินให้กับผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบว่า น.ส.มีน (นามสมมุติ) ยังคงมีพฤติกรรมไปหลอกให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ มาลงทุนในลักษณะเดียวกันนี้อยู่ โดยล่าสุดทราบว่าได้มีการเปิดบ้านแชร์เช่นนี้เป็นบ้านที่ 5 แล้ว ส่วนตนที่ได้ลงทุนไปกับบ้านแชร์บ้านแรก ซึ่งมียอดลงทุนรวมกันประมาณ 100 กว่าล้านบาท
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาทางด้าน พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีทางผู้เสียหายบางรายได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สารภี ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด โดยภายหลังการเจรจาพูดคุย ได้เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า เกี่ยวกับคดีดังกล่าวนี้ทางตนได้ทราบเรื่องมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พฤติการณ์ของ น.ส.มีน (นามสมมุติ) นั้นถือว่าเป็นการเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เพราะเนื่องจากการเปิดบ้านแชร์ของ น.ส.มีน (นามสมมุติ) นั้นไม่ได้ถือเป็นการเปิดวงแชร์แบบปกติ เพราะมีการเรียกเก็บเงินเข้ามา แล้วจ่ายเงินออกไป เหมือนกับว่าเป็นการยืมเงินผู้เสียหายไป ส่วนการดำเนินการติดตามตัว น.ส.มีน (นามสมมุติ) นั้นล่าสุดขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เนื่องจากว่าผู้เสียหายบางรายก็ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล รวมทั้งการรวบรวมหลักฐานที่เป็นเรื่องคดีเช่นนี้นั้นก็ค่อนข้างยากลำบาก แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะได้มีการออกหมายเรียก น.ส.มีน (นามสมมุติ) ให้ทางเจ้าตัวทราบแล้ว เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 30 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งหากทางเจ้าตัวไม่ยอมมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องมีการออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
@ สภ.สารภี จว.เชียงใหม่ ….27 ส.ค.63 ขอประชาสัมพันธ์หากใครมาชวนคุณ ลงทุนออมเงิน หรือออมเงินรูปแบบต่างๆ ในอินเตอร์เนต…
โพสต์โดย สถานีตำรวจภูธรสารภี เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2020