สถานการณ์น้ำ 2 เขื่อนใหญ่เมืองเชียงใหม่ ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ปีนี้อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย หลังฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 15 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา วอนเกษตรกรเก็บกักน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้าให้มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 เฟซบุ๊ก “เรารักชลประทาน” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ภาคเหนือมีแนวโน้มที่จะสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว ความหวังที่ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 2 แห่งของเมืองเชียงใหม่ คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด รวมไปถึงอ่างเก็บน้ำขาดกลางและขนาดเล็ก ที่หวังว่าจะได้น้ำเพิ่มขึ้นเริ่มลดลงหลังจากพายุดีเปรสชั่นมีแนวโน้มจะไม่พาดผ่านทางภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่จะไปเติมในอ่างฯลดลงตามไปด้วย แต่เนื่องจากเป็นช่วงปลายฝนสุดท้าย คาดว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งจะช่วยเติมน้ำในอ่างฯให้เพิ่มขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
ในขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม 2563 เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จะมีน้ำประมาณ 146 -154 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ปริมาณน้ำในอ่างฯ ล่าสุด มีอยู่ประมาณ 138 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 52 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ 589,917 ลบ.ม. ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา คาดว่าจะมีน้ำ 119-124 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 110 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 42 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ 540,000 ลบ.ม. จึงขอให้เกษตรกร ได้จัดหาแหล่งน้ำสำรองไว้เก็บกักน้ำ หรือผันน้ำท่าจากลำน้ำใกล้เคียง เข้าไปเก็บกักไว้ในพื้นที่ของตน เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งได้อีก รวมทั้งขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดและจริงจังด้วย