จังหวัดเชียงใหม่ รณรงค์ใช้กระทง 1 กระทงต่อ 1 ครอบครัว พร้อมขอความร่วมมืองดใช้กระทงที่ทำจากโฟมหรือขนมปัง เพื่อลดปริมาณขยะในแม่น้ำและป้องกันน้ำเน่าเสีย
นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ว่า ในทุกๆ ปี ภายหลังจากเสร็จสิ้นประเพณีลอยกระทงแล้ว จะมีภารกิจหนึ่งที่หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จะต้องบูรณาการร่วมกันปฏิบัติเป็นประจำ นั่นคือ การเก็บกระทงของพี่น้องประชาชนที่ไหลมากองรวมกันตามแม่น้ำลำคลองสายต่างๆ โดยเฉพาะในแม่น้ำปิง บริเวณประตูระบายน้ำป่าแดด ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่มักจะมีเศษกระทงลอยมากองอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้ได้วางแผนไว้ว่าจะเริ่มดำเนินการเก็บกระทงหลังจากเสร็จสิ้นงานลอยกระทงใหญ่ผ่านไปแล้ว 2 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เพื่อรอให้กระทงที่ลอยมาจากต้นน้ำ หรือในพื้นที่อำเภอที่อยู่ห่างไกลได้ลอยมากองรวมกันให้หมดก่อน จึงจะดำเนินการเก็บในคราวเดียวกัน ซึ่งในวันนั้นจะมีการจัดกิจกรรมจิตอาสา โดยเป็นการบูรณาการของทุกภาคส่วนมาร่วมกันเก็บกระทงที่ตกค้างให้หมดสิ้น ในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งก็จะใช้กำลังคน ส่วนในบริเวณพื้นที่กลางน้ำก็จะใช้เรือและเครื่องจักรต่างๆ เข้ามาดำเนินการ คาดว่าจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 วัน เพื่อไม่ให้แม่น้ำปิงเกิดการเน่าเสีย
ทั้งนี้ ผลจากการสำรวจปริมาณขยะจากกระทงที่ตกค้างบริเวณหน้าประตูระบายน้ำป่าแดด ในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณขยะจากกระทงลดลงเหลือเพียงประมาณ 50 ตัน ซึ่งลดลงจากในปี 2561 ที่มีมากถึง 70 ตัน นอกจากนี้ยังพบว่า กระทงส่วนใหญ่เป็นกระทงที่ทำมาจากวัสดุทางธรรมชาติ โดยมีกระทงที่ทำจากโฟมหรือวัสดุอื่นๆ เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้งความร่วมไม้ร่วมมือของพี่น้องประชาชน ดังนั้น ในปีนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยกันลดประมาณขยะจากกระทงให้ลดลงอีก โดยอาจใช้การร่วมกันลอยกระทงเพียง 1 กระทงต่อ 1 ครอบครัว หรือหากใครมาลอยเป็นคู่กันก็ขอให้ใช้กระทง 1 กระทงต่อ 1 คู่ ขณะเดียวกันก็ขอเน้นย้ำให้ประชาชนใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ โดยไม่ให้ใช้กระทงที่ทำจากโฟม หรือแม้กระทั่งกระทงที่ทำจากแป้งหรือขนมปัง เนื่องจากเวลาที่กระทงที่ทำจากแป้งหรือขนมปังมากองรวมกันเป็นปริมาณมาก ก็จะส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสีย และจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมภายในน้ำได้
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่