ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการ “ช้อปดี มีคืน” ซื้ออะไรได้ – ไม่ได้ ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและกำลังซื้อของคนในประเทศ
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการ “ช้อปดี มีคืน” ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและกำลังซื้อของคนในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อค่อนข้างสูงที่ต้องเสียภาษี โดยจะมีการคืนภาษีสูงสุด 30,000 บาท มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สินค้าที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ในโครงการ ช้อปดีมีคืน
- สินค้าและบริการทุกประเภท ที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน
- ค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
สำหรับสินค้าท้องถิ่นและหนังสือ มีข้อยกเว้นที่ต่างไปจาก สินค้าอื่นๆ เนื่องจากสินค้าและบริการอื่นๆ ผู้ซื้อต้องจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนสินค้าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และหนังสือ จะจ่ายให้ผู้ผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้
ส่วนสินค้าต้องห้าม ไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ ช้อปดีมีคืน ประกอบด้วย
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าน้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าบริการจัดนำเที่ยว ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
- ค่าที่พักในโรงแรม ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
ข้อควรรู้ที่ต้องจำ สำหรับโครงการ ช้อปดีมีคืน
– เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563
– ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิตามโครงการคนละครึ่ง หรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามมติคณะรัฐนตรี เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563
– เงินที่นำมาลดหย่อนได้ มาตากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ สำหรับการซื้อสินค้า หรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
– ใช้ซื้อสินค้าและบริการได้เฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนด หากซื้อสินค้าหรือบริการก่อนหน้าไปแล้ว คนขายไม่สามารถแก้ไขใบกำกับภาษีให้ได้เพราะเท่ากับการโกง
– อย่าลืมขอหลักฐานการจ่ายเงิน โดยเฉพาะใบกำกับภาษี เก็บไว้ เพื่อประกอบการลดหย่อนภาษี
– ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคล
วัตถุประสงค์ของมาตรการ ช้อปดีมีคืน มีเป้าหมายเพื่อ กระตุ้นการบริโภคในประเทศ, สนับสนุนผู้ประกอบการ ที่อยู่ในระบบภาษี รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งคาคว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 1.11 แสนล้านบาท และคาดว่าจะช่วยให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 0.30
ที่มา: thebangkokinsight