สาวหอบหลักฐานโร่เข้าแจ้งความ หลังถูกโซเชียลแชร์ภาพกระหน่ำหาว่าเป็นหญิงที่ติดโควิด เผยเดือดร้อนหนักถูกต่อว่า แถมยังต้องถูกพักงานสูญเสียรายได้ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด
วันที่ 30 พ.ย. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ช่วงเย็นวานนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ได้มี นางสาวสุมีนา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาว ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ศุภสิน สุวรรณเลิศ ร.ต.ท.ศุภสิน สุวรรณเลิศ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ช้างเผือก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลผู้ไม่หวังดีที่ จากกรณีที่ได้มีผู้ไม่หวังดี นำภาพของตนสวมเสื้อสีเหลือง ทับด้วยเสื้อยีนนอกสีฟ้า นำไปเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล พร้อมทั้งระบุว่า “ตนเองติดเชื้อโควิด-19” จนทำให้ผู้พบเห็นเรื่องราว และติดตามข่าวสารเกิดความเข้าใจผิด มีการแชร์ข้อมูลออกไปเป็นวงกว้าง อีกทั้งมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่า จนเจ้าตัวได้รับความเดือดร้อน เสียหาย ซึ่งในระหว่างการเดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้นั้น ทางด้าน นางสาวสุมีนา (สงวนนามสกุล) ได้นำภาพหลักฐานเป็นภาพของตนที่ถูกนำไปลงเผยแพร่ และถูกแชร์ออกไปโดยมีใจความว่า ตนนั้นเป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งข้อความจำนวนมากที่เจ้าตัวถูกต่อว่ามาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวทั้งหมด ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท” และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
โดยทางด้าน นางสาวสุมีนา (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายรายนี้ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดมีข่าวที่ว่าพบหญิงสาวติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้มีบุคคลที่ไม่หวังดี ได้นำภาพของตนไปเผยแพร่ซึ่งเป็นเฟกนิวส์ ที่ระบุว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหญิงสาวที่ติดเชื้อโควิดรายล่าสุดดังกล่าว ส่งผลทำให้ตนนั้นได้รับความเสียหาย ซึ่งหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นบนโลกโซเชียลที่พบเห็นก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเชิงต่อว่าตนไปต่างๆ นาๆ อีกทั้งยังมีสื่อโทรทัศน์บางช่องก็มีการนำภาพตนไปปรากฏอยู่บนหน้าจอทีวี หาว่าเป็นบุคคลที่ติดเชื้อโควิค-19 จนทำให้ขณะนี้บรรดาเพื่อนสนิทและคนรู้จักได้ติดต่อเข้ามาสอบถามกับตนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ต้องมาปฏิเสธและต้องชี้แจงให้ทุกคนทราบถึงกรณีดังกล่าว นอกจากนี้จากการที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปนั้น ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตน เนื่องจากต้องถูกพักงานชั่วคราว เพราะข่าวดังกล่าวที่ปรากฏไปทำให้ไม่มั่นใจว่าตนปลอดเชื้อโควิดจริงหรือไม่ ซึ่งทำให้ตนสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก
นางสาวสุมีนา (สงวนนามสกุล) กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นปีซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศ และในจังหวัดเชียงใหม่ โดยตนนั้นเป็น 1 ใน 42 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในพื้นที่ซึ่งติดมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นตนก็ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 1 เดือน จนกระทั่งหายดีและไม่มีการตรวจพบเชื้อแล้ว แต่จากการที่มีบุคคลไม่หวังดีนำเอาภาพของตนไปเผยแพร่จึงทำให้หลายๆ คน รวมไปถึงผู้ที่พบเห็นข่าวเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าตนนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหญิงสาวที่ติดเชื้อรายล่าสุด อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับบุคคลที่แชร์และโพสต์เรื่องราวดังกล่าวในโซเชียลโดยไม่คิดรวมไปถึงบุคคลที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าเหยียดหยามจนทำให้ตนได้รับความเสียหายด้วย
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทางด้าน นางสาวสุมีนา (สงวนนามสกุล) ได้ทำการเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น เบื้องต้นทางด้าน ร.ต.ท.ศุภสิน สุวรรณเลิศ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ช้างเผือก ได้ทำการรับเรื่องพร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ข้อเท็จจริงพร้อมทั้งดำเนินการติดตามหาตัวผู้ใช้เฟซบุ๊กที่กระทำความผิดมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป