รวบคาหนังคาเขา! หนุ่มควงคีมตัดเหล็ก งัดตู้ซักผ้าหยอดเหรียญกลางวันแสกๆ เจ้าของเห็นรวบไว้ได้ทัน อ้างไม่มีเงินกินข้าว
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. 63 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าได้ทำการจับกุมตัวคนร้ายขณะก่อเหตุลักทรัพย์ได้ภายในร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อมาถึงภายในร้านดังกล่าวพบทางเจ้าของร้าน ทราบชื่อคือ นายสุภการ อายุ 28 ปี ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ โดยภายในร้านพบชายคนร้ายที่ก่อเหตุ สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนขายาวสีเหลือ สภาพถูกจับมัดด้วยเชือก บริเวณใบหน้าเปื้อนเลือด ขณะเดียวกันพบของกลางที่ใช้ก่อเหตุเป็นคีมตัดเหล็ก สีส้มวางอยู่ ตรวจสอบทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุร้ายนี้คือ นายวิช (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาว ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมทั้งของกลางขึ้นรถเพื่อนำตัวส่งไปดำเนินคดียัง สภ.แม่ปิง
ทั้งนี้จากการสอบถามทางด้าน นายสุภการ เจ้าของร้านที่ทำการจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่ร้านของตนเคยมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตนจึงตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้ง จนกระทั่งในวันนี้ขณะอยู่ภายในบ้าน ก็พบเห็นชายคนดังกล่าวในจอโทรทัศน์วงจรปิด กำลังใช้คีมที่นำติดตัวมากำลังจะตัดกุญแจที่ล็อกเครื่องหยอดเหรียญที่เครื่องซักผ้า ตนจึงได้รีบวิ่งออกมาดูซึ่งขณะนั้นทางคนร้ายก็พยายามขัดขืน ตนจึงต่อสู้ จนกระทั่งจับกุมคนร้ายได้คาหนังคาเขา และได้เรียกคนในบ้านให้นำเชือกมามัดมือคนร้ายไว้ ก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวในเวลาต่อมา ซึ่งจากการพูดคุยกับทางคนร้าย ได้ปฏิเสธว่าไม่เคยก่อเหตุ และเพิ่งมาก่อเหตุเป็นครั้งแรกเพราะเพิ่งมาจากจังหวัดเชียงราย และไม่มีเงินกินข้าวเดือดร้อนจึงตัดสินใจก่อเหตุ แต่ตนก็ไม่ปักใจเชื่อเพราะที่ผ่านมาเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว และร้านในลักษณะเช่นเดียวกับตนก็ต่างถูกก่อเหตุมาแล้วเช่นกัน ซึ่งตนคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นรายเดียวกันกับที่ก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวคนร้ายไปแล้วนั้น ได้มีชาวบ้านหลายรายออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต่างระบุตรงกันว่า เคยถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะเช่นนี้เช่นกัน แต่จับตัวไม่ได้ จนกระทั่งมาถึงครั้งนี้ ซึ่งก็เชื่อว่าคนร้ายนั้นน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวเจ้าของร้านที่เกิดเหตุไปให้ปากคำที่ สภ.แม่ปิง อีกครั้ง พร้อมทั้งหลักฐานกล้องวงจรปิด เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ โดยหลังจากนี้ก็จะมีการสืบสวนขยายผลและส่งตัวคนร้ายพร้อมด้วยหลักฐานทั้งหมดให้กับทางพนักงานสอบสวนของสถานีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป