เชียงใหม่ หลายหน่วยงานบูรณาการลุยตรวจตลาดสดเมืองใหม่ ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณภายในตลาดเมืองใหม่ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ , สำนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ 1 เชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ดำเนินการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และรถพระราชทานตรวจหาเชื้อชีวนิรภัย ตรวจโควิด-19 เข้าทำการลงพื้นที่ภายในตลาดเมืองใหม่ เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประชาชนและแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ภายในตลาด รวมไปถึงตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารสด และอาหารทะเลที่วางจำหน่ายในตลาด ภายหลังมีกระแสข่าวพบการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดดังกล่าว เนื่องจากตลาดเมืองใหม่นั้นถือเป็นสถานที่ที่มีแรงงานต่างด้าว หรือแรงงานชาวพม่า เข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลหลายร้าน ที่อาจส่งผลทำให้ประชาชนและผู้จับจ่ายตลาดเกิดความกังวลและกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นมาในพื้นที่
โดยในการลงพื้นที่ของทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในวันนี้ ถือเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งการตรวจร่างกาย ของประชาชน และกลุ่มแรงงานสุ่มเสี่ยง รวมไปถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าภายในตลาดดังกล่าว ซึ่งตั้งเป้าในการเก็บตัวอย่างผู้ตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 300 คน และจะมีการดำเนินการตรวจสอบและเก็บตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่วานนี้ (21 ธ.ค.63) ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการเข้าทำการตรวจสอบที่บริเวณตลาดคำเที่ยง และกลุ่มแรงงานในชุมชนวัดป่าแพ่ง ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีกลุ่มคนแรงงานต่างด้าวพักอาศัย และทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก และจากผลการเก็บตัวอย่างกว่า 300 คน มาทำการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด
ทั้งนี้ทางด้าน นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากผลกระทบในการตรวจพบการแพร่เชื้อระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาคร ทำให้จังหวัดเชียงใหม่เกิดความตื่นตัวในกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่มีความเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะในส่วนของตลาดกุ้ง และตลาดมหาชัย รวมไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่กันอย่างแออัด และอาจจะมีบางส่วนที่เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านที่อาจมีการนำเชื้อเข้ามา ดังนั้นทางจังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องมีการตรวจสอบและเร่งหาผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะที่เป็นตลาด ร้านค้า และร้านจำหน่ายอาหารทะเล ที่อาจมีความเชื่อมโยง และตลาดที่มีความแออัดและตลาดชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวมากๆ จะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ดำเนินการตรวจ อย่างเช่นเมื่อวานที่มีการดำเนินการตรวจสอบที่ คำเที่ยง และชุมชนป่าแพ่ง และในวันนี้ก็เป็นตลาดชุมชน ที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานจำนวนมาก รวมทั้งมีความเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการรับสินค้ามาขาย ซึ่งเป็นอีกจุดที่ต้องมีการตรวจสอบให้เต็มที่ และคาดว่าในวันนี้ก็จะทราบผลว่ามีผู้ติดเชื้อหรือไม่
ขณะเดียวกัน เป็นที่น่ายินดีที่ผลการตรวจสอบที่คำเที่ยง และชุมชนป่าแพ่ง กว่า 300 คน ที่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบวานนี้ ผลการตรวจสอบมีผลเป็นลบทั้งหมด แสดงว่าพื้นที่ของเราส่วนหนึ่งค่อนข้างที่จะปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ครบถ้วน โดยเป้าหมายตลาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นมีทั้งหมดประมาณ 10 แห่ง โดยจะมีการทยอยตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญก็ต้องทำงานแข่งกับเวลา และจะมีการรายงานผลให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
ในส่วนของกรณีที่มีคนจากจังหวัดอยุธยา เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่อาย และจากการตรวจสอบพบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 นั้นก็เป็นเรื่องที่มีความกังวลเป็นอย่างมาก ทำให้มีการจัดทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยตั้งเป้าสแกนหาผู้ติดเชื้อทั้งหมดจาก 3 ตำบล ประกอบด้วย มะลิกา , ท่าตอน และแม่อาย โดยวานนี้ตรวจสอบแล้วไป 1 ตำบล จำนวน 145 ราย โดยผลการตรวจสอบก็ไม่พบผู้ติดเชื้อ ทำให้เกิดความสบายใจได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะต้องขอเวลา 3 วัน ในการตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ทั้งหมด 3 ตำบลดังกล่าว หลังจากนั้นก็จะกลับสู่สภาวะปกติ และสามารถปลดล็อกดาวน์ได้ เนื่องจากตอนนี้มีการขอจำกัดการเคลื่อนที่ และจริงๆ แล้วในพื้นที่ดังกล่าวก็ยังไม่เข้าจำกัดความของล็อกดาวน์ เนื่องจากการล็อกดาวน์นั้นจะมีการห้ามออกจากบ้าน แต่กรณีนี้สามารถเดินทางได้ตามปกติในพื้นที่ และสามารถออกนอกพื้นที่ได้ แต่ต้องมีการจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ไว้เพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงผู้ที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ก็อาจจะมีการแจ้งเตือนกรณีพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือควรรออีก 3 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จจึงเดินทางเข้าไปจะดีที่สุด แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถเดินทางเข้าไปได้อยู่เช่นกัน