สาวใหญ่วัย 59 ปี หายไป 2 วัน ชาวบ้านออกตามหา เจอเป็นศพถูกฆ่าสุดสยอง ยัดใส่ถังตั้งในเมรุป่าช้า บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า คาดคนร้ายเตรียมเอาศพเผาทำลายหลักฐาน แต่ชาวบ้านมาเจอก่อน ด้าน จนท.เข้าตรวจสอบ เร่งรวบรวมเบาะแสตามจับมือฆ่า
เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 24 ธ.ค.63 โดยทาง พ.ต.อ.สุวิทย์ ห่วงทอง ผกก.สภ.แม่กา จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งรายงานว่า มีชาวบ้านพบร่างคนเสียชีวิตถูกยัดใส่ถัง ภายในบริเวณ สุสานบ้านสันบ่อเย็น ม.2 ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่พบถังพลาสติกแกลลอน สีน้ำเงิน ขนาด 200 ลิตร วางอยู่บริเวณด้านในเมรุเผาศพ และเมื่อตรวจสอบภายในถังดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเพศหญิง ถูกยัดอยู่ และศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางอาคร อายุ 59 ปี ที่อยู่ ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำการนำร่างผู้เสียชีวิตมาตรวจชันสูตร ก่อนจะทำการเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันจากการสอบถามทางชาวบ้านทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านได้มีการออกตามหาตัว นางอาคร ผู้เสียชีวิต ซึ่งได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา โดยในตอนแรกชาวบ้านก็นึกว่าผู้เสียชีวิตจะเดินทางไปหาญาติ แต่พอประสานกับทางญาติก็ไม่มีใครพบเห็น และไม่สามารถติดต่อกับผู้เสียชีวิตได้ ต่อมาจึงได้แจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งในช่วงสายวันนี้ได้มีชาวบ้านเดินผ่านเมรุดังกล่าว และได้สังเกตเห็นว่ามีถังพลาสติกวางอยู่ในเมรุมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา จึงได้เดินเข้าไปตรวจสอบก็พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นศพถูกฆาตกรรมและยัดถังดังกล่าว จากนั้นจึงรีบได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุดังกล่าว และจากการตรวจสอบชันสูตรศพในที่เกิดเหตุพบร่างกายของผู้เสียชีวิตมีรอยฟกช้ำบริเวณคางทั้งสองข้าง แต่ไม่มีบาดแผลถูกแทง หรือถูกรัด และรอยบาดแผลฉกรรจ์แต่อย่างใด
โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐาน และเบาะแสของสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นได้สันนิษฐานว่า การที่คนร้ายลงมือก่อเหตุในครั้งนี้นั้น น่าจะเกิดจากปัญหาความแค้น หรืออาจจะขัดแย้งส่วนตัวกับผู้เสียชีวิต จึงได้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม ก่อนนำศพผู้เสียชีวิตมายัดใส่ถัง และได้เคลื่อนย้ายมาไว้บนเมรุเพื่อเตรียมเผาทำลายหลักฐาน แต่คาดว่าน่าจะมีชาวบ้านที่ออกตามหาผู้เสียชีวิตได้มาพบเข้าก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะได้ส่งไปยังแผนกนิติเวช เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้งก่อนจะได้ติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป