สสจ.เชียงใหม่ แถลงการณ์ กรณีผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดลำปาง มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 182 ราย เพื่อตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วัน พร้อมประกาศค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดระยอง ภูมิลำเนาจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
วันที่ 29 ธันวาคม 2563 สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และไม่พบการะบาดในพื้นที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ยังคงคุมเข้มในมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่ รวมถึงการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ที่มีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยหรือพื้นที่เสี่ยง จากจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดระยอง ต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ขณะนี้ตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 195 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด) และต้องรายงานตัวกับเจ้าพนักงานโรคติดต่อในพื้นที่ พร้อมทั้งกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ ต้องลงทะเบียน “CM ชนะ” ทุกราย ก่อนเข้าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง กรณีที่มีการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดลำปาง และมีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการประสาน และดำเนินการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชายไทย อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดลำปาง อาชีพพนักงานบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่เดินทางกลับมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ในจังหวัดระยอง โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม เวลา 18.45 น. ถึง 20.50 น. ได้เดินทางมากับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD103 ที่นั่ง A11 จาก สามบินอู่ตะเภา มาถึงสนามบินเชียงใหม่ ในเวลา 21:00 น. ได้เช่ารถจากบริษัทรถเช่า เข้าพักโรงแรมอาร์ตไหม จังหวัดเชียงใหม่ และในเวลา 22.30-24.00 น. มีเพื่อน 3 คน มารับไปทานอาหาร ที่ร้านทองดี วันรุ่งขึ้น 26 ธันวาคม 2563 Check out ออกจากโรงแรม และเดินทางกลับลำปาง วันที่ 28 ธันวาคม ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลลำปาง ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ
ผลการดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีผู้สัมผัสทั้งหมด 182 ราย (ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว 26 ราย รอผลตรวจ) เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 34 ราย(ผู้สัมผัสในชุมชน 16 ราย , ผู้สัมผัสในยานพาหนะ 18 ราย) ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 148 ราย(ผู้สัมผัสในยานพาหนะ 130 ราย , ผู้สัมผัสในชุมชน 18 ราย) ได้นัดหมายให้มารับการเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จำนวน 156 ราย ขณะผู้สัมผัสทั้งหมดได้รับคำแนะนำในการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน เรียบร้อยแล้ว สำหรับร้านทองดีและโรงแรมอาร์ตไหม ที่ผู้ป่วยไปใช้บริการได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามมาตรการของกรมควบคุมโรคเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงเย็นนี้ ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับประสานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่จังหวัดระยอง ชายไทย อายุ 56 ปี ภูมิลำเนาอยุ่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพนักงานขับรถของบริษัทนครชัยแอร์ สายระยอง-เชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปกลับเชียงใหม่ ระยอง ตลอดในช่วงที่ผ่านมา และมีประวัติเดินทางไปยังสถานที่ระบาดในจังหวัดระยอง จากการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว จำนวน 5 ราย นอกจากนี้ผู้ป่วยมีประวัติไปตรวจรักษาโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม ของโรงพยาบาลราชเวช ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 09.00-11.30 น. ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคกำลังดำเนินการติดตามผู้สัมผัส ขอให้ประชาชนผู้ที่ไปรับบริการในช่วงดังกล่าว ติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 084-8052121 ,084-8053131 หรือติดต่อที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป
สำหรับผลการดำเนินการตรวจคัดกรอกหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ประกอบการที่จะเข้ารวมงานฤดูหนาวจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้(29 ธันวาคม) จำนวน 97 ราย ซึ่งผลจะออกในช่วงคืนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคในการจัดงานฤดูหนาวจังหวัดเชียงใหม่ 2564
นายแพทย์กิตติพันธุ์ ย้ำว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย กำลังขยายวงกว้าง ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทาง มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้(29 ธันวาคม) ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ให้มีความเข้มข้น และเข้มงวดสำหรับสถานบริการที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง ผับ ร้านอาหาร ให้มีการตรวจบัตรประชาชนผู้เข้ารับบริการ ตรวจคัดกรอกตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค รวมถึงการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่ลงตรวจอย่างจริงจัง หากไม่ปฏิบัติตมมาตรการ ต้องถูกพิจารณาให้ปิดร้านได้ โดยการดำเนินการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิต และเศรษฐกิจของชาวเชียงใหม่ให้น้อยที่สุด จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมด้วยช่วยกันในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค สวมหน้ากาก 100% ล้างมือ เว้นระยะห่าง สแกน “ไทยชนะ”