“เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” ประกาศผลการตั้งชื่อลูกวัวแดง “น้องเดือนยี่” หลังประสบความสำเร็จการเพาะขยายพันธุ์หนึ่งในสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย

“เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” ประกาศผลการตั้งชื่อลูกวัวแดง “น้องเดือนยี่” หลังประสบความสำเร็จการเพาะขยายพันธุ์หนึ่งในสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มกราคม 2564 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประกาศผลการตัดสินการประกวดตั้งชื่อลูกวัวแดง จำนวน 1 ตัว เพศผู้ สมาชิกใหม่ที่เกิดในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งฉลองปีใหม่ 2564 ที่เป็น “ปีฉลู” หรือปีวัว พอดี โดยมี นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ประธานคณะอนุกรรมการด้านบริหาร สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และนายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหารพัฒนาพิงนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ร่วมกันตัดสินการประกวดตั้งชื่อ โดยวิธีการจับฉลากจากชื่อที่ผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการ จำนวน 50 ชื่อ จาก 340 กว่าชื่อ ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวส่งเข้าร่วมประกวด

นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ประธานคณะอนุกรรมการด้านบริหาร สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า จากการจับฉลากการประกวดการตั้งชื่อให้ลูกวัวแดงนี้ ผลปรากฏว่าจับฉลากได้หมายเลข 6 ได้ชื่อ “น้องเดือนยี่” เพราะน้องเกิดวันที่ 22 ธันวาคม 2563 (ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่) และได้รับการตั้งชื่อจากผู้โชคดี คุณหยาดพิรุณ ยะจอม จากจังหวัดลำพูน

สำหรับ “น้องเดือนยี่” เป็นลูกวัวแดง เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เกิดจาก “พ่อลัน” และ “แม่ลิ้นจี่ ขณะนี้ลูกวัวน้อยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และได้รับการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติจากแม่ลิ้นจี่ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ในส่วนจัดแสดงซาวันน่า ซาฟารี ซึ่งถือเป็นความสำเร็จการเพาะขยายพันธุ์หนึ่งในสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทยอีกด้วย และปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีสมาชิกวัวแดง รวมทั้งหมด จำนวน 7 ตัว (เพศผู้ 5 ตัว เพศเมีย 2 ตัว)

วัวแดง (Bos javanicus) เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย เลี้ยงลูกด้วยนม ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีรูปร่างคล้ายวัวบ้านแต่มีขนาดใหญ่กว่า มีวงก้นขาวทั้งในตัวผู้และตัวเมีย มีเส้นขาวรอบจมูก ขาทั้ง 4 ข้าง มีสีขาวตั้งแต่หัวเข่าจนถึงกีบเท้า ระหว่างโคนขาของตัวผู้ไม่มีขนแต่เป็นหนังตกกระแข็งๆ ลำตัวและหัวยาวประมาณ 190 – 255 เซนติเมตร หางยาว 65 – 70 เซนติเมตร สูงประมาณ 155–165 เซนติเมตร มีน้ำหนักราว 600 – 800 กิโลกรัม

ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่มีการเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และเพื่อความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และก่อนเข้าพื้นที่ต้องทำการ Scan QR Code ไทยชนะ พร้อมตรวจคัดกรองผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ชนิดตรวจวัดอุณหภูมิความร้อน โดยนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนจองคิวนั่งรถชมสัตว์ก่อนเข้าใช้บริการในช่องทางออนไลน์เท่านั้น https://faceticket.net/queues/night-safari/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 – 999000 หรือ Line@ : nightsafari, Facebook: เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari