รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์สินค้ากระเทียม พร้อมกำหนดมาตรการช่วยเหลือชาวไร่กระเทียมในพื้นที่ภาคเหนือ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์สินค้ากระเทียม พร้อมกำหนดมาตรการช่วยเหลือชาวไร่กระเทียมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยกำหนดราคาชี้นำตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 13.50 บาท ก่อนที่จะมีการซื้อขายกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคมนี้
วันนี้ (23 ม.ค. 64) ที่ หอประชุม 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์สินค้ากระเทียม และกำหนดมาตรการช่วยเหลือชาวไร่กระเทียมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมประชุม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมผลผลิตกระเทียมในแต่ละปีจะมีประมาณ 2 แสน 3 หมื่นตัน บริโภคภายในประเทศ 1 แสน 7 หมื่นตัน และทำการนำเข้ามาอีกประมาณ 6 หมื่นตัน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของ WTO ภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ และมีภาษีนำเข้าอยู่ที่ร้อยละ 57
ทั้งนี้ จากปัญหาที่มีการเผยแพร่ข่าวว่ามีการตกเขียวรับซื้อกระเทียมสดล่วงหน้า ในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำ ทางกระทรวงพาณิชย์จึงได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่ 8 บริษัท ทำการเจรจาซื้อขายกระเทียมสดล่วงหน้า โดยกำหนดราคาชี้นำตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 13.50 บาท ก่อนที่จะมีการซื้อขายกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีผลผลิตกระเทียมออกมาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ได้มีการกำหนดมาตรการเสริม กรณีมีผลผลิตออกมามากทำให้เกิดการชะลอขาย กระทรวงพาณิชย์จะช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ผู้รวบรวมกระเทียม ในช่วงชะลอขาย ดอกเบี้ย 3% เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมสั่งการให้ทางกรมศุลกากร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง เคร่งครัดในการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้ากระเทียมตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ท่าเรือคลองเตย และแหลมฉบัง และขอให้มีการเข้มงวดเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตนำเข้ากระเทียม โดยให้มีการตรวจสอบที่ชัดเจนทั้งปริมาณ คุณภาพ และสุขอนามัย รวมถึงการขนย้าย หากตรวจพบว่าเกิดการกระทำผิด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และในส่วนของมาตรการระยะยาว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้ดำเนินการพัฒนาพันธุ์กระเทียมเพื่อให้กระเทียมไทยเป็นกระเทียมที่มีคุณภาพ กลีบใหญ่ แกะง่าย และรสชาติดี พร้อมเร่งรัดให้มีการส่งเสริมการปลูกกระเทียมออร์แกนนิคและเปิดตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ส่งเสริมการนำกระเทียมไปสร้างนวัตกรรมทางอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าของกระเทียมไทย
นันธิกา กิจปาโล/ศราวุธ เจิมจันทร์ ข่าว-ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
23 มกราคม 2564