พิษโควิดประทบหนัก ธุรกิจขายทัวร์ย่านถนนท่าแพเชียงใหม่พากันปิดกิจการ หลังไม่มีนักท่องเที่ยว วอนภาครัฐช่วยเหลือ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และธุรกิจหลายๆ ธุรกิจที่ต้องปรับตัวตามสภาพ อีกทั้งบางธุรกิจถึงกับต้องล้มเลิกกิจการไป เช่นเดียวกับบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ขณะนี้ถือเป็นช่วงไฮซีซันของจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับเงียบเหงาแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จนภาคธุรกิจท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะธุรกิจขายทัวร์ตามพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ที่เปิดกิจการขายแพ็กเกจทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างต้องพากันปิดกิจการกันไปเป็นจำนวนมาก ที่ผลพวงมาจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่
ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจยังบริเวณถนนสายท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เป็นย่านเฟื่องฟูด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง และเป็นแหล่งที่มีผู้ประกอบจำนวนมาก เปิดธุรกิจขายทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยว พบว่าปัจจุบันมีบรรยากาศเงียบเหงา และหลายๆ แห่งต้องปิดตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่บริเวณถนนสายราชภาคีนัย ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นย่านที่มีผู้ประกอบการขายทัวร์จำนวนมาก พบว่าปัจจุบันต่างพากันเลิกกิจการและปิดตัวไปตามๆ กัน แม้ว่าบางรายยังคงเปิดกิจการอยู่แต่ก็ไม่มีลูกค้า จนต้องหันมาปรับตัวทำธุรกิจค้าขาย หรือให้บริการเช่ารถควบคู่ไป เพื่อประคับประคองให้อยู่รอดไปได้ในสถานการณ์แบบนี้
จากการสอบถามทางด้าน น.ส.ศิญาภัสร์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน ENJOY CAR RENT & TRAVEL ที่เปิดทำธุรกิจขายทัวร์ในย่านดังกล่าว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นมา ทางตนซึ่งเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจขายทัวร์ในย่านนี้ยอมรับว่าได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด เนื่องจากในขณะนี้บริษัททัวร์เกือบทุกบริษัทได้มีการปิดตัวลง โดยเฉพาะทัวร์ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น จีน และพวกแคมป์ช้างที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายของแรงงาน จึงทำให้ธุรกิจอยู่ไม่ได้ อย่างเช่นร้านของตนที่เปิดกิจการมาได้ประมาณ 6-7 ปี ก็พบเจอความแตกต่างอย่างมากหลังจากที่เจอสถานการณ์แบบนี้ จากแต่เดิมที่มีรายได้ แต่ตอนนี้ไม่มีรายได้จากธุรกิจตรงนี้เลย นับเป็นศูนย์จากรายได้การท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ตนจึงมีการปรับตัวมองหาธุรกิจที่สามารถประคับประคองให้อยู่ได้ โดยการขายทัวร์ให้กับคนไทยด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงที่โควิดมีการระบาดรอบแรก ทางรัฐบาลก็ยังมีการให้ความช่วยเหลือ โดยการโปรโมตให้ไทยเที่ยวไทย ซึ่งก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวบ้าง และทำให้มีรายได้บางส่วนจากนักท่องเที่ยวของไทยเที่ยวไทย แต่พอมาเกิดการระบาดระลอกสอง ทางนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดก็ไม่สามารถเข้ามาได้บางส่วน คนในเชียงใหม่ก็เที่ยวกันเองทำให้ไม่มีรายได้เลย แต่กลับกัน ค่าเช่า ค่าจ้างแรงงาน ก็ยังต้องจ่ายตลอดโดยที่ภาครัฐก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลยตรงจุดนี้
น.ส.ศิญาภัสร์ บอกอีกว่า ขณะเดียวกันในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ตนต้องเสียในแต่ละเดือน แม้ว่าทางผู้ที่ให้เช่าก็เห็นใจให้ความช่วยเหลือบ้างบางส่วนโดยการลดค่าเช่า แต่จากการที่ไม่มีรายได้ตรงส่วนนี้เลย ก็ยังคงต้องเสียเงินอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาทต่อเดือน ซึ่งตรงส่วนนี้ก็ยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ต้องเสียอีกด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของตนนั้นก็อยากให้ทางหน่วยงานรัฐและผู้เกี่ยวข้อง ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตรงจุดนี้ โดยอาจจะมีการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว รวมไปถึงการลดดอกเบี้ยที่เกี่ยวกับการใช้จ่าย รวมไปถึงที่มีการกู้ยืมมาลงทุน ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ยังคาดหวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากร้านที่ตนเช่าอยู่ทุกวันนี้ตนก็ยังประคองไว้เพื่อที่ภายภาคหน้าสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น
