ชาวเมียนมาและชาวคะฉิ่นในเชียงใหม่ เดินเท้าชูป้ายรวมตัวชุมนุมอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง ต่อต้านรัฐประหารและต่อต้านการจับกุมผู้นำและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา
เมื่อช่วงสายวันนี้ (13 ก.พ.64) เวลาประมาณ 10.30 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณด้านหน้าสถานกงสุลเมียนมาประจำเชียงใหม่ กลุ่มผู้ชุมนุมชาวเมียนมาและชาวคะฉิ่นในเชียงใหม่ ได้เดินทางรวมตัวกันจำนวนประมาณกว่า 200 คน ได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเดินหน้าต่อต้านรัฐประหารและต่อต้านการจับกุมผู้นำและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา พร้อมทั้งการอ่านแถลงการณ์ กรณีเกิดรัฐประหารในเมียนมา โดยในการชุมนุมครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ถือป้ายแสดงข้อความไม่เอารัฐประหาร และข้อความไม่เอาเผด็จการในเมียนมา โดยมีรูปนายพลมิ่น อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐประหารในเมียนมา มีขีดกากบาททับรูป ตั้งขบวนเดินมาตามเส้นทางจากบริเวณด้านหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จนมาถึงยังบริเวณหน้าสถานกงสุลเมียนมาประจำเชียงใหม่ ก่อนที่ทางด้านแกนนำผู้ชุมนุมจะได้ทำการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องหน้ากงสุลเมียนมาเป็น 3 ภาษา ที่ประกอบด้วย ภาษาคะฉิ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาเมียนมา โดยในระหว่างการชุมนุมครั้งนี้ ได้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้าสังเกตการณ์และดูแลรักษาความสงบ
ทั้งนี้ทางด้าน นายต้งออง ละชี และนายอนุชาติ ลาพา พร้อมด้วย นายยาอื๋อ ช่อแล ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นแกนนำผู้อ่านแถลงการณ์ครั้งนี้ ระบุว่า พวกเราชาวคะฉิ่นในประเทศไทยขอประณามอย่างรุนแรงในการปฏิวัติรัฐประหารของกองทัพเมียนมาในวันที่ 1 ก.พ.2564 โดยการอ้างความรับผิดชอบต่อการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งนำไปสู่การกดขี่ถึงกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ รวมทั้งพี่น้องชาวคะฉิ่นในประเทศเมียนมา ผู้นำชนเผ่าเมียนมา และผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ได้ลงนามในข้อตกลง Panglong ในปี พ.ศ.2490 และ 2491 พื้นที่ชาติพันธุ์ของเมียนมาได้รับเอกราชจากอาณานิคมของอังกฤษด้วยกัน อย่างไรก็ตามเอกราชดังกล่าวได้ทำลายสิทธิของชนกลุ่มน้อยภายใต้การปกครองของเมียนมา เป็นผลให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่อสู้สิทธิ์ทางการเมืองของตนมานานกว่า 70 ปี มีการเจรจามากับทุกรัฐบาลเพื่อหาทางออกทางการเมือง แต่สิทธิทางการเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์หรือชนกลุ่มน้อยยังถูกเพิกเฉย หากปัญหาทางการเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา ยังคงถูกเพิกเฉยต่อไป ชาวเมียนมาเอง จะไม่สามารถเติบโตในทุกด้านของชีวิตทางการเมืองและเศรษฐกิจและยังคงเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
ดังนั้นขอเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.กองทัพเมียนมายุติการทำรัฐประหารและคืนอำนาจให้กับประชาชนเมียนมา, 2.ถอนทหารเมียนมาทั้งหมดที่ประจำการอยู่ในรัฐคะฉิ่นและพื้นที่ชาติพันธุ์ทันที, 3.ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2551 และ 4.รัฐบาลประชาชน ควรจัดการเจรจาทางการเมืองกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆรับรองสิทธิและเสรีภาพตามที่ชาติชาติพันธุ์ต่างๆเรียกร้องเพื่อกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ ชาวคะฉิ่นในประเทศไทย ตามเอกสารแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการรวมตัวกันของทางกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้ได้ใช้เวลารวมตัวประมาณ 30-40 นาที ที่บริเวณด้านหน้าสถานกงสุลเมียนมาประจำเชียงใหม่ และภายหลังการเสร็จสิ้นการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องแล้ว มีชาวเมียนมาที่มาช่วมชุมนุมจำนวนหนึ่งไม่พอใจ ได้นำรูปภาพของนายพลมิ่น อ่อง หล่าย วางกับพื้นถนนแล้วกระทืบและเหยียบย่ำจนภาพขาด จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมชาวเมียนมาได้สลายตัว ภายใต้การดูแลที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ในที่สุด