(มีคลิป Video) “เฮียหน้อย” ยื่นหนังสือ กกต. ร้องสอบเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ส่อทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมนำหลักฐานส่งมอบให้ตรวจสอบพิจารณา

8974

(มีคลิป Video) “เฮียหน้อย” ยื่นหนังสือ กกต. ร้องสอบเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ส่อทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมนำหลักฐานส่งมอบให้ตรวจสอบพิจารณา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มี.ค.64 ที่บริเวณสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ นายชาตรี เชื้อมโนชาญ ผู้สมัครหมายเลข 3 จากกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยสมาชิกทั้งหมด ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงกรณีการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ภายหลังจากพบว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้นมีความไม่ชอบธรรม และส่อเค้าทุจริต มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และไม่เป็นไปตามกฎกติกาที่ทางคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ มีการแจ้งไว้ในการจัดการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งในการเดินทางเข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ทางกลุ่มยังได้มีการร่วมกันลงนามในการยื่นหนังสือพร้อมทั้งระบุว่ามีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่จะนำมาให้ทางคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการตรวจสอบ โดยมีทางกลุ่มประชาชนและผู้สนับสนุนเดินทางเข้าร่วมให้กำลังใจกับทางผู้สมัครหมายเลข 3 และสมาชิกกันเป็นจำนวนมาก

โดยทางด้าน นายชาตรี เชื้อมโนชาญ ผู้สมัครหมายเลข 3 จากกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ทางตนและสมาชิกได้รับทราบมาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และอยากขอให้ทางคณะกรรมการเลือกตั้งได้มีการตรวจเช็กรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วกรณีดังกล่าวนี้ทางด้านคนเชียงใหม่ก็อาจทราบดี อีกทั้งก็ยังมีคนส่งรายละเอียดมาให้ทางตนเยอะมาก และมีหลักฐานพอสมควรที่จะให้ทางคณะกรรมการเลือกตั้ง พิจารณาว่าเรื่องราวดังกล่าวมีความโปร่งใสเหมือนที่ได้มีการพูดคุยตกลงกันไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากการที่ได้มีการพูดคุยกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องมีความโปร่งใส และจะต้องไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งทางกลุ่มตน กลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ ก็เคารพกฎกติกา และไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงจริงๆ เพราะเกรงกลัวในเรื่องของกฎหมาย และการทำผิดระเบียบต่างๆ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด และยืนยันได้ว่าทางกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่นั้นไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างแน่นอน

ในส่วนของการเดินทางเข้ายื่นหนังสือกับทาง คณะกรรมการเลือกตั้งในวันนี้ก็ได้มีการรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องบางส่วนมาแล้ว และหลักฐานที่เพิ่มเติมก็จะมีการส่งตามมา และหลักฐานที่รวบรวมมานี้ก็มีมากพอสมควร ทั้งที่ได้จากชาวบ้าน และจากหลายๆ คน รวมไปถึงคลิปเสียงที่มีการเจรจาพูดคุยกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้ให้ทางคณะกรรมการเลือกตั้ง พิจารณาว่าหลักฐานที่ได้มานั้นจะเพียงพอสำหรับการใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งหลักฐานที่ได้รวบรวมมาให้นี้ก็จะมีคลิปเสียง และหลักฐานที่บ่งชี้จากหลายคนว่ามีคนลงไปหาและมีการพูดถึงเบอร์ต่างๆ ที่มีการร้องขอให้ช่วยเหลือ

ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งครั้งนี้จากสิ่งที่ตนคาดหวังไว้ว่าจะไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่เมื่อผลมันออกมาเป็นเช่นนี้ ตนก็รู้สึกเสียใจ และเสียความรู้สึก เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็แสดงว่าเชียงใหม่ยังใช้เงินซื้อได้อยู่ ซึ่งตนคิดว่าน่าจะหมดไปแล้ว แต่ก็ยังมีอยู่ และพวกเราทุกคนก็อยากเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เพราะมีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า อยู่ร่วมกันจึงอยากให้คนที่มาสืบทอดเจตนารมณ์ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง เดินทางการเมืองแบบบริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใส

ขณะที่ทางด้าน นายทองเนตร ดูใจ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังการรับหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ว่า หลังจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง จะได้มีการนำสำนวนที่ผู้ร้องยื่นให้มาพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาการเลือกตั้งเทศบาลมีเรื่องร้องเรียนรวมทั้งหมด 52 เรื่อง และส่งไปแล้ว 8 เรื่อง เฉพาะของเชียงใหม่ 121 เทศบาล โดยเฉพาะของในส่วนเทศบาลนครเชียงใหม่มีอยู่ 2 เรื่อง ซึ่งยังขอสงวนไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร แต่ก็เป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามในส่วนของการตรวจสอบการทุจริตนั้นที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ก็มีชุดเคลื่อนที่เร็ว มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งก็มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาเป็นระยะๆ และก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปทันทีที่มีการรับแจ้ง ก็มีการตรวจสอบและมีพยานหลักฐานบางส่วนเข้ามา

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ก็จะมีการรับเรื่องไว้ และนำเข้าสู่กระบวนการทางธุรการต่อไป จากนั้นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ประจำจังหวัด ก็จะพิจารณาดูว่าเรื่องร้องเรียนมีมูลและข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะสั่งให้เป็นสำนวนหรือไม่ หากยังไม่เพียงพอก็จะมีการสั่งให้ตรวจมูลกรณีก่อน แล้วค่อยรายงานส่วนกลาง โดยมีกำหนดระยะเวลาประมาณ 20 วัน อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับกรณีที่ว่ามีการทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการเลือกตั้ง ก็มีชุดเจ้าหน้าที่ข่าว เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ลงพื้นที่ตลอด และมีการรายงานเข้ามาเป็นระยะ แต่ในเรื่องของการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้นเขาไม่ได้ทำในที่แจ้ง และแอบลักลอบทำ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ไม่เจอ เพราะไม่มีการทำซึ่งหน้า แต่อาจจะมีการทิ้งหลักฐานซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องมีการตรวจสอบหรือสืบทราบต่อไป