สุดเงียบเหงา! โควิดทำพิษ กาดหลวงเมืองเชียงใหม่ พ่อค่า-แม่ค้า นั่งเฝ้าร้านไร้คนจับจ่ายซื้อของหลังวันสงกรานต์ เผยรายได้ลดลงกว่า 10 เท่าจากสถานการณ์ปกติ แต่ยังคงต้องอดทนสู้ช่วยเหลือตัวเอง หวังให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติในเร็ววัน
วันที่ 17 เม.ย. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า บรรยากาศช่วงวันผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีแต่ความเงียบเหงา หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควัด-19 ที่ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ มียอดผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่ขณะนี้มีจำนวน 1,873 คนแล้ว และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดดังกล่าวส่งผลทำให้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นจังหวัดเชียงใหม่กลายเป็นเมืองเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จากการที่ต้องยกเลิกกิจกรรมหลักหลายอย่าง อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็มีการกักตัวอยู่แต่ที่พัก ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่ง ขณะที่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่หลายแห่งก็พบว่ามีบรรยากาศที่เงียบเหงาเช่นกัน
ขณะที่บริเวณตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย (กาดหลวง) อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตลาดชื่อดังและเป็นสถานที่ที่ช่วงหลังวันสงกรานต์มักจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ไปจับจ่ายซื้อของ เพื่อนำไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับติดไม้ติดมือไปหลังจากที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ นั้นกลับพบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาจนแทบไม่มีคนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของ แม้ว่าในวันนี้จะเป็นหลังการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ปกติในช่วงนี้จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก พากันมาซื้อของฝาก อาทิ แคบหมู , น้ำพริกหนุ่ม , ไส้อั่ว รวมไปถึงอาหารและของใช้พื้นเมืองต่างๆ ที่ถือได้ว่าเป็นช่วงกอบโกยรายได้ของบรรดา พ่อค้า-แม่ค้า หลายๆ เจ้าภายในตลาดแห่งนี้ แต่วันนี้กลับพบว่าสินค้าที่นำมาขายนั้นกลับแทบไม่มีลูกค้ามาซื้อ จนพ่อค้า-แม่ค้า บางเจ้าถึงกับปิดร้านไม่ขายสินค้า เพราะเปิดร้านขายแต่ก็ขายไม่ได้ และพบว่าตลาดที่เคยมีประชาชนเดินกันอย่างเนืองแน่นนั้นกลับโล่งมีเพียง พ่อค้า-แม่ค้า นั่งเฝ้าร้านเพียงเท่านั้น
จากการสอบถามทางด้าน นางรัชนี แสงบุญ อายุ 45 ปี แม่ค้าร้านศรีพรรณ ภายในตลาดวโรรส บอกว่า บรรยากาศการขายของในวันนี้ก็เงียบสนิท เมื่อเทียบกับบรรยากาศของวันหยุดยาวช่วงเทศกาลในช่วงที่สถานการณ์ปกติ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คนเยอะมาก เพราะก่อนที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดจะเดินทางกลับประมาณ 2 วัน ก็จะเดินทางมาจับจ่ายซื้อของฝากในตลาดแห่งนี้กันอย่างหนาแน่น เพื่อซื้อของฝากกลับไป แต่ในขณะนี้พบว่ารายได้เมื่อเทียบกับภาวะปกติก็หายไปเป็น 10 เท่า แม้ว่าในแต่ละวันจะมียอดขายที่ไม่เท่ากัน แต่ก็ยืนยันว่ารายได้จากการขายของหายไปเยอะมาก อย่างเช่นในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา 13-15 เม.ย. ก็ขายของแทบไม่ได้ และรายได้ที่คาดการณ์ไว้ก็ลดลงไปมาก โดยเฉพาะในวันนี้ก็พบว่าบรรยากาศยิ่งเงียบมากกว่าเดิมอีกด้วย
นางรัชนี บอกอีกว่า อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ตนก็เข้าใจว่าไม่มีใครช่วยเหลือใครได้ และคงต้องช่วยตัวเอง และจะร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดก็คงไม่มี จึงต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อนให้ผ่านพ้นสถานการณ์ตรงนี้ไปให้ได้ และคาดหวังอยากให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้นในเร็ววัน โดยจากนี้ทุกคนก็ยังคงต้องดูแลตัวเองและช่วยกันในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีกทางหนึ่งด้วย