รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ชี้ ดราม่าผู้ป่วย รพ.สนาม ข้ามโซนมาอยู่กับแฟนสาว มีความผิด สามารถถูกดำเนินคดีได้ ฐานสร้างความวุ่นวาย เดือดร้อนให้ผู้อื่น พร้อมเตรียมงัดมาตรการเข้มหากเกิดซ้ำซาก ขอความเห็นใจ ผู้ป่วยทุกคนเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน
วันที่ 30 เม.ย. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า ความคืบหน้ากรณีการเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียล จากการที่หญิงสาวผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับพฤติกรรมของหญิงสาวผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ โซนเฉพาะผู้ป่วยหญิงด้วยกัน ที่พาแฟนหนุ่มที่ติดเชื้อโควิด-19 ย้ายเข้ามานอนร่วมกันพร้อมกับเพื่อนของฝ่ายชาย และภายหลังที่วานนี้ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสนามและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบ พร้อมทั้งมีการตักเตือนหญิงสาวอย่างรายนี้ แต่หญิงสาวและแฟนหนุ่มกลับไม่สนใจและไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว โดยสาวผู้ป่วยที่เป็นเจ้าของเรื่อง ระบุด้วยว่ามีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ แต่ไม่กล้านำออกเผยแพร่ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่ปรากฏข้อมูลออกมาก่อนหน้านี้นั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามกับทาง นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ภายหลังจากเกิดเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวและกระแสวิจารณ์ในโซเชียล รวมไปถึงจากการที่ตนได้รับข้อร้องเรียนมาจากผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ภายในโรงพยาบาลสนามดังกล่าวแล้วนั้น ต่อมาทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาทำการประชุมพิจารณาแล้ว และเห็นสมควรว่าจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจริง และเกิดความเสียหายรวมทั้งก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันแล้วนั้น ก็จะต้องมีการออกมาตรการที่จะทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติโดยเร็ว โดยในขณะนี้ทางโรงพยาบาลสนามได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เจ้าของพื้นที่ จะได้ร่วมกันลงทำการตรวจสอบรายละเอียด ว่าเกิดเหตุอย่างไร และใครเป็นคนก่อเหตุ รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผู้ได้รับผลกระทบก็มีสิทธิ์ในการที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษได้แล้ว ในส่วนของโรงพยาบาลสนามก็เป็นพื้นที่เฉพาะ ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนั้นหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมเกิดขึ้น ก็จะต้องมีการพิจารณาตามสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป และที่ผ่านมาก็ได้มีการขอความร่วมมือไปยังทุกโรงพยาบาลสนามในการทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้ามาอาศัยภายในโรงพยาบาลสนาม รวมไปถึงขอความร่วมมือไปยังผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ามารักษาตัวตามโรงพยาบาลสนามต่างๆ ว่าให้หลีกเลี่ยงการกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น และการกระทำการใดๆ ที่ส่อไปในทางที่ผิดกฎหมาย เพื่อที่จะให้มีการดูแลสุขภาพตามความเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น อย่างไรก็ตามในขณะนี้ก็ได้มีการรวบรวมรายชื่อ ของกลุ่มบุคคลที่กระทำการไม่เหมาะสม ซึ่งในเรื่องนี้ถือเป็นวิธีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ดังนั้นหากยังละเลยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลง หรือให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติในพื้นที่เฉพาะเหล่านี้ ก็อาจจะต้องมีการพิจารณาใช้มาตรการปกครอง หรือมาตรการทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินการให้เกิดความเข้มงวด เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ยุติโดยเร็ว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการทางด้านกฎหมายนั้น สามารถทำได้หมดหากเป็นเรื่องที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ถึงแม้พื้นที่ภายในโรงพยาบาลสนามจะเป็นพื้นที่ที่คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ ยกเว้นแพทย์ พยาบาล ที่จะต้องสวมใส่ชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างแน่นหนา และหลังจากที่ผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนออกจากโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามแล้ว อาจจะต้องมีการพิจารณาว่าบุคคลเหล่านี้พร้อมที่จะรับผลการกระทำที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากทุกคนอยู่ในภาวะวิตกกังวลเรื่องของสุภาพอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะไปกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ กับกลุ่มผู้ติดเชื้อด้วยกัน โดยเฉพาะพฤติกรรมส่วนตัว ที่ควรกระทำหลังออกจากโรงพยาบาลเพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ซึ่งตนอยากเน้นย้ำในเรื่องของการเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และที่สำคัญคือไม่เป็นการกระทำที่เพิ่มภาระให้กับทางเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานที่เสียสละเข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อ จึงขอความเห็นใจในเรื่องนี้ด้วย