คนเชียงใหม่ตื่นตัวมากขึ้น ผวาเชื้อโควิด-19 ติดง่ายตายเร็ว สำรวจพฤติกรรมพบมีการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
วันที่ 6 พ.ค. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า แม้แนวโน้มการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่จะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งล่าสุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มียอดตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่เพียงหลักสิบ เท่านั้น แต่ในส่วนของผู้ป่วยอาการหนักยังคงน่าเป็นห่วง ที่ล่าสุดวานนี้ (5 พ.ค.64) จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสมแล้วถึง 9 ราย ส่วนผู้ป่วยอาการหนักหรือกลุ่มสีแดง รักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มเป็น 18 ราย ซึ่งการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยสะสม 3,789 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อรักษาหายแล้วจำนวนทั้งสิ้น 2,661 ราย และรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนาม 1,119 ราย
ทั้งนี้ความรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้ป่วยเชื้ออาการทรุดหนักจนเสียชีวิตไปแล้วถึง 9 คน สร้างความตื่นตัวให้กับชาวเชียงใหม่ในการดูแลป้องกันตัวเอง ทีมข่าวสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ตลาดสิริวัฒนา ต.เช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ที่มีผู้คนเข้าออกหน้าแน่นตลอดทั้งวัน พบว่าทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้าไปเดินซื้อของพากันสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีกหลายคนยังล้างมือก่อนเข้าและออกตลาดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
นอกจากความตื่นตัวเพราะกลัวจะติดเชื้อโควิด-19 ในระลอกใหม่ที่ถูกเรียกกันว่า “ติดง่ายตายเร็ว” สาเหตุที่ประชาชนพากันสวมหน้ากากอนามัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งยังมาจากคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดที่กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยใน “พื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย” ซึ่งตลาดสดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกระบุไว้ในคำสั่ง
อย่างไรก็ตามยังมีรายงานว่ามีบางพื้นที่ โดยเฉพาะในย่านตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่าน ยังมีพ่อค้าแม่ค้าบางรายที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งในเรื่องนี้นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือและขอให้เช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง แจ้งเบาะแส หากพบผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการคำสั่งของจังหวัด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม
สำหรับพื้นที่ไม่ปลอดภัยตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 43 และ 45/2564 หมายถึง พื้นที่ที่มีการพบปะผู้คน หรือ มีการรวมกลุ่มของผู้คน ได้แก่ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ยานพาหนะสาธารณะ อาคารขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ สนามบิน สถานที่ทำงาน ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า และ สถานที่สาธารณะต่าง ๆ เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยซึ่งต้องสวมหน้ากากด้วยหากเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
ส่วนบทกำหนดโทษระบุไว้ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ และ คำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท” ตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2564
