AIS 5G เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ผนึกกำลัง 5 ซูเปอร์ฟู้ดเดลิเวอรี่ Grab, foodpanda, LINE MAN Wongnai, Gojek และ Robinhood ชวนคนไทยอิ่มฟินอยู่บ้าน ปลอดภัย ไกลโควิด พร้อมหนุน ร้านอาหาร ต้องรอดไปด้วยกัน!!!

175

AIS 5G เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ผนึกกำลัง 5 ซูเปอร์ฟู้ดเดลิเวอรี่ Grab, foodpanda, LINE MAN Wongnai, Gojek และ Robinhood ชวนคนไทยอิ่มฟินอยู่บ้าน ปลอดภัย ไกลโควิด พร้อมหนุน ร้านอาหาร ต้องรอดไปด้วยกัน!!! 

6 พฤษภาคม 2564 : นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ AIS กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังน่ากังวล สิ่งที่คนไทยจะมีส่วนร่วมรับมือกับสถานการณ์นี้ได้คือ การอยู่บ้าน เพื่อลดการติดต่อสัมผัสแพร่เชื้อ ดังนั้น 1 ในความต้องการที่จำเป็นระหว่างการอยู่บ้าน คือ เมนูอาหารที่หลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่า จากร้านค้าที่เชื่อถือได้ นี่จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง AIS กับผู้นำบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ทั้ง 5 ราย คือ Grab, foodpanda, LINE MAN Wongnai, Gojek และ Robinhood เพื่อมอบสิทธิพิเศษจากเมนูอร่อยให้แก่ลูกค้า AIS ให้สามารถรับสิทธิพิเศษเมื่อสั่งอาหารจาก ทั้ง 5 ราย ที่มีร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ เพียงใช้ AIS Points แลกรับส่วนลดสูงสุด 60 บาท โดยลูกค้าสามารถแลกรับสิทธิ์ได้ง่ายๆ ผ่าน Application myAIS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

สำหรับแคมเปญ “ผนึกกำลังกิน ฟินอยู่บ้าน กับ เอไอเอส พอยท์” ถือเป็นเพียงรายเดียวที่ร่วมมือกับฟู้ดเดลิเวรี่ทั้ง 5 แบรนด์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวกระหว่างอยู่บ้านของคนไทยท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ ได้ร่วมสนับสนุน ช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารทุกกลุ่มที่อาจไม่สามารถเปิดให้เข้าไปนั่งกินในร้านได้ รวมไปถึงพนักงานส่งอาหาร หรือ ไรเดอร์ของฟู้ดเดลิเวรี่แต่ละแบรนด์ ที่เสมือนหนึ่งฮีโร่ที่ส่งอาหารอร่อยหลากหลายเมนู ให้คนไทยอยู่บ้านได้อย่างปลอดภัย

นอกจาก เอไอเอส จะสนับสนุนให้คนอยู่บ้าน แต่ก็ยังสามารถ Stay Connect กับญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนที่รัก ได้ง่ายๆอีกด้วย เพียงสั่ง Food Delivery มาส่งที่บ้าน แล้ว VDO Call ทานข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน นับเป็นวิถี New Normal ที่ช่วยให้อยู่บ้านไม่มีเหงา แถมอิ่มฟินยิ่งขึ้นด้วยการใช้ AIS Points แลกส่วนลดค่าอาหารได้สูงสุดถึง 60 บาท ผ่านทาง myAIS ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ท่ามกลางช่วงเวลายากลำบาก”

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้บริการฟู้ดเดลิเวอร์รี่มีแน้วโน้มเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคที่กักตัวและรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งแกร็บ ประเทศไทย ในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการรับ-ส่งอาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ด (GrabFood) มีความมุ่งมั่นที่อยากช่วยสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวต่อข้างหน้า พาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้ายังคงมีรายได้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ซึ่งสอดคล้องไปกับพันธกิจหลักของแกร็บอย่าง “GrabForGood” หรือ แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ในยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทย ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการช่วยสร้างรายได้ โดยความร่วมมือกับ AIS 5G ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้าแต่ยังช่วยสนับสนุนและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการเข้าถึงบริการรับ-ส่งอาหาร”

นายพีรพล สง่าเมือง ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “foodpanda เล็งเห็นความสำคัญของความร่วมมือกับเอไอเอส ในการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมไร้เงินสด และลดสัมผัส สนองตอบทุกภาคส่วนในการช่วยลดความเสี่ยงการติดโควิด และกระตุ้นให้ลูกค้าได้อยู่บ้าน และด้วยพื้นที่ให้บริการส่งอาหาร และของกินของใช้ ที่ครอบคลุมมากถึง 77 จังหวัดทั่วไทย ในราคาค่าส่งประหยัด จึงเป็นส่วนสำคัญให้คนไทยได้เข้าถึงบริการ และสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมทั่วประเทศ”

นายวุฒิชัย น้ำใจประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ AIS 5G ในครั้งนี้เป็นการเสริมแกร่งวิสัยทัศน์สู่การเป็น E-commerce Platform for Services ของ LINE MAN Wongnai ที่เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมบริการมากมายสำหรับลูกค้าคนพิเศษที่ชอบการสั่งเดลิเวอรีด้วยตัวเลือกร้านอาหารมากที่สุดกว่า 300,000 ร้านตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านหรู และยังมีแคมเปญพิเศษเฉพาะลูกค้า AIS 5G ซึ่งจะทำให้ลูกค้า AIS 5G จะได้สัมผัสประสบการณ์กับมื้อพิเศษผ่าน LINE MAN แล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆ อีกมากมายด้วย”

นางสาว เมธิณี โรจนปัญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์พาร์ทเนอร์ชิพ Gojek Thailand กล่าวว่า “Gojek ยินดีที่ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจชั้นนำ ของ AIS ในการขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในช่วงเวลาเช่นนี้ และพร้อมส่งมอบมื้ออร่อยให้ผู้ใช้บริการทุกคนอย่างปลอดภัยในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่างผ่านบริการแบบ contactless delivery และการจ่ายเงินแบบออนไลน์ โดยความร่วมมือครั้งนี้ผู้ใช้บริการจะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับบริการ GoFood นอกจากนั้นตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ภายในแอป Gojek เองยังมีส่วนลดสูงสุดถึง 50% และสิทธิพิเศษอื่นอีกมากมายเพื่อความคุ้มค่าที่มากยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าทุกท่านอีกด้วย”

นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ “โรบินฮู้ด” แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ที่กำลังทวีความเข้มข้น โรบินฮู้ดขอยืนหยัดในการเป็นตัวกลางสนับสนุนร้านอาหารด้วยการยึดมั่นในหลักการของแพลตฟอร์มที่ไม่เก็บค่า GP แม้แต่บาทเดียว และเรามีนโยบายที่จะไม่เก็บตลอดไป เพื่อมุ่งช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจ และสร้างรายได้ที่เป็นธรรมให้กับร้านค้า โดยร้านค้าจะได้รับเงินจากการขายภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งช่วยให้ร้านค้ามีเงินหมุนเวียนในการพยุงธุรกิจต่อไปได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับไรเดอร์ท่ามกลางการว่างงานที่ดีดตัวสูงขึ้น โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับ เอไอเอส เพื่อมอบส่วนลดให้กับลูกค้าในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความสุขเล็ก ๆ ให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยอย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงในการเดินทางออกนอกบ้านเพื่อร่วมกันป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19”

นางบุษยา กล่าวในตอนท้ายว่า “นอกจากความร่วมมือในแคมเปญ “ผนึกกำลังกิน ฟินอยู่บ้าน กับ เอไอเอสพอยท์” ที่เป็นแคมเปญที่จัดขึ้นตลอดปี 2564 แล้ว AIS 5G ยังร่วมกับ ซูเปอร์ฟู้ดเดลิเวอรี่ทั้ง 5 ราย สนับสนุนเงินให้แก่โครงการ “เรื่องเล่าแบ่งปัน” ของช่อง 3 และแนะนำร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Food Delivery ทั้ง 5 ราย เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์มน้ำใจ ช่วยเหลือฉุกเฉินทั้งผู้เดือดร้อนในชุมชน และร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบ อันจะเป็นสะพานบุญ เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ สามประสาน ระหว่างชุมชน ร้านค้า ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงทีในช่วงวิกฤตนี้ โดยต้องขอขอบคุณและชื่นชมพาร์ทเนอร์ที่มาร่วมเป็นพลังที่แข็งแกร่งจากภาคเอกชนในการร่วมกันฟื้นฟูประเทศไทยไปด้วยกันจากวันนี้เป็นต้นไป”