กรมอนามัย ห่วงคนในครอบครัวจุดกระจายเชื้อโควิด-19 แนะใช้ “ไทยเซฟไทย” ประเมินความเสี่ยง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลรายงานระบบบริการ/ เฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค มีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมจากการระบาดระลอกเมษายน 2564 รวม 31,850 ราย คิดเป็นร้อยละ 83.90 ซึ่งเปอร์เซ็นต์การสัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานมีตัวเลขสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น แม้แต่การอยู่ในครอบครัวก็ต้องระวัง เนื่องจากอาจไม่มีอาการแต่ติดเชื้อแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุในครอบครัวต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะจากข้อมูลกรมอนามัยพบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้สูงอายุในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 คิดเป็นร้อยละ 53 และเสียชีวิตมากที่สุดในช่วงอายุ 60–69 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 36 รองมาคือโรคเบาหวาน ร้อยละ 28 และโรคไต ร้อยละ 18 สำหรับกลุ่มเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 592 ราย และพบอีกว่าผู้ติดเชื้อมาจากการสัมผัส คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ร้อยละ 54
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การป้องกันตนเองไม่ให้เป็นผู้ที่จะนำเชื้อโควิด-19 มาสู่สมาชิกในครอบครัว สามารถทำได้ด้วยการประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ที่ช่วยคัดกรองเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อโควิด 19 สู่ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และชุมชน รวมถึงลดความรุนแรงหากมีความเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาหรือพบแพทย์ได้เร็วขึ้น สำหรับสมาชิกในบ้านจำเป็นต้องป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดเมื่ออยู่ร่วมกัน โดยขอให้ปฏิบัติตัวดังนี้ 1) ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องออกไปทำงาน นอกบ้าน ควรสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะอยู่ร่วมกับผู้อื่น 2) หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดบุคคลอื่น เว้นระยะห่างไม่คลุกคลีกับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง 3) กินอาหารสะอาด ปรุงสุก มีการแยกกันกินอาหาร แต่หากต้องกินร่วมกันควรใช้ช้อนกลางส่วนตัว และลดการพูดคุยขณะกินอาหาร 4) ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน “5) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ 6) ออกกำลังกายเป็นประจำมากกว่า 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ และแต่ละครั้งนานอย่างน้อย 30 นาที 7) สังเกตอาการตัวเองและวัดไข้ทุกวัน หากมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจ ตาแดง ผื่นแดง ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์ 8) ทำความสะอาดจุดสัมผัสหรือใช้งานร่วมกันบ่อย ๆ ในส่วนการใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม หากใช้ร่วมกัน ควรทำความสะอาดบ่อย ๆ และอาจฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5 เปอร์เซ็นต์ และ 9) สมาชิกทุกคนเมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว