แจง 3 รูปแบบ กระจายวัคซีน Walk In เริ่ม มิ.ย. ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละพื้นที่ด้วย
(14 พ.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้มากที่สุดเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ลดโอกาสความรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งนำไปสู่กรณีที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 ให้รูปแบบการฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2564 เป็นต้นไปประกอบไปด้วย 3 รูปแบบ ซึ่งจะรวมถึงรูปแบบที่ประชาชน walk In เข้ามารับวัคซีน ณ จุดบริการต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่แต่ละพื้นที่เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามแนวนโยบายของทั้งนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งแต่ละแห่งมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค รวมถึงความพร้อมแตกต่างกัน ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารของแต่ละพื้นที่ในขณะนี้จึงอาจจะยังสร้างความสับสนให้กับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ จึงมีข้อสั่งการให้ชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
นโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนขณะนี้คือจัดหาวัคซีนที่เพียงพอกับประชาชนทุกคน จึงได้มีการปรับเป้าหมายการจัดหาจาก 100 ล้านโดส เป็น 150 ล้านโดส ส่วนรูปแบบการกระจายวัคซีนนั้นดำเนินการผ่าน 3 รูปแบบเริ่มดำเนินการในเดือนมิ.ย.2564 คือ 1.การนัดผ่านไลน์ หรือแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือแอปพลิเคชันอื่นๆที่รัฐบาลจะจัดให้ 2.นัดเป็นกลุ่มก้อน เช่น อสม. หรือองค์กรภาครัฐและเอกชนรวบรวม และ 3.รูปแบบ Walk In โดยสัดส่วนการจัดสรรจะอยู่ที่ 30 : 50: 20 และปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเห็นสมควร
“ในส่วนของรูปแบบที่ 3 คือการเปิดให้ walk In นั้นตามนโยบายรัฐบาลจะจัดให้มีอย่างแน่นอน เพื่อเปิดโอกาสให้กับประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบตามรูปแบบแรก และไม่ได้ผ่านการนัดหมายแบบกลุ่มก้อนในแบบที่ 2 แต่การให้วัคซีนแบบการ walk in นี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องพิจารณาทั้งประเด็นของปริมาณวัคซีนและสถานการณ์การแพร่ระบาด เช่นกรณีของกรุงเทพมหานคร ที่แม้นโยบายของรัฐบาลเห็นว่าให้ประชาชน walk in รับวัคซีนได้ แต่ผู้รับผิดชอบพื้นที่เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เหมาะสมที่จะมีการ walk in เนื่องจากเป็นพื้นที่แพร่ระบาดสูง หากมีกิจกรรมรวมตัวจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้น ทางกรุงเทพมหานครจึงยังไม่เปิดให้มีการ walk In ในขณะนี้ แต่จะมีอย่างแน่นอนเมื่อมีความพร้อม เนื่องจากขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่ไว้แล้วหลายแห่ง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดติดตามการประกาศของจังหวัด ซึ่งจะยึดแนวนโยบายของรัฐบาลพียงแต่แต่มีรายละเอียดต่างตามสถานการณ์ของพื้นที่เท่านั้น”
ในประเด็นเกี่ยวกับการรับส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนในเวลานี้ เพื่อลดความสับสน รัฐบาลขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลของทางการโดยเฉพาะประกาศของทางจังหวัด ส่วนการรับข้อมูลทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ขอให้รับด้วยความระมัดระวังมีการตรวจสอบที่มาอย่างรอบด้าน และขอความร่วมมือผู้จัดทำชุดข้อมูล กราฟฟิก หรือข้อความเพื่อส่งต่อผ่านช่องทางต่างๆ ขอให้เป็นการทำข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคม ลดการสร้างความสับสน เพื่อความเข้าใจร่วมกันจะนำไปสู่การควบคุมการแพร่ระบาด การดูแลสภาพและชีวิตประชาชนที่มีประสิทธิภาพ และคนไทยจะได้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน