ป้ายโผล่กลางเมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านคัดค้านระบบวันเวย์ ถ.ราชดำเนิน ด้านหลวงพ่อวัดพันอ้นชี้ขึดบ้านขึดเมือง ผิดธรรมเนียมโบราณ กระทบวิถีชีวิตคนนับพันครอบครัว
วันที่ 20 พ.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จสกกรณีที่มีการติดป้ายไวนิลที่มีข้อความ “พวกเราไม่ต้องการถนน ONE WAY” ถูกนำไปติดไว้หลายจุดริมถนนราชดำเนิน อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านระบบการเดินรถและการใช้พื้นที่บนบนถนนรูปแบบใหม่ ที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่นำมาทดลองใช้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา
จากการสอบถามทาง พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น บนถนนราชดำเนิน บอกว่า ถนนรูปแบบใหม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนกว่า 1,000 ครอบครัวในชุมชนพันอ้น ชุมชนบ้านปิง ชุมชนนหมื่นล้าน ชุมชนทุงยู ที่อยู่ริมสองฝั่งถนน และ ชุมชนอื่น ๆ รอบข้าง การปรับถนนให้เดินรถทางเดียวทำให้รถเมล์ประจำทางไม่สามารถวิ่งย้อนสวนทางกลับมาได้ ต้องเสียเวลา เสียค่าโดยสารเพิ่ม เช่นเดียวกับพระเณรในหลายวัดบนถนนสายนี้ ที่ต้องนั่งรถสี่ล้อแดงไปเรียนที่วัดสวนดอก ขาไปเหมือนเดิม แต่ขากลับรถต้องวิ่งอ้อม ทำให้เสียค่ารถเพิ่ม จาก 20 บาท เป็น 30 – 50 บาท
นอกจากนี้ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยพบว่าช่องทางช่องกลาง ที่ใช้เป็นที่จอดรถยนต์มีโอกาสที่จะเปิดประตูออกมาโดนรถที่ขับอยู่ทั้งทางซ้ายและขวา ที่ผ่านมาหลังเริ่มทดลองใช้ ยังเกือบจะเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งบริเวณทางแยก เนื่องจากรถที่ต้องการเลี้ยวซ้าย มองไม่เห็นรถในช่องทางจักรยาน เพราะมีรถจอดช่องกลางบังไว้
อีกส่วนหนึ่งที่เป็นห่วงก็คือหากเปิดเทอมหรือกลับเข้าสู่การท่องเที่ยวปกติ ถนนสายนี้จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีวัดสำคัญหลายแห่ง หากมีเด็กนักเรียนหรือนักท่องเที่ยวเรียกรถโดยสารสาธารณะ หากรถจอดรับผู้โดยสารก็จะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้เพราะถนนวิ่งได้ช่องทางเดียว
เจ้าอาวาสวัดพันอ้น บอกว่า การปิดทางเดินถนนให้เหลือช่องทางเดียว เท่ากับเป็นการปิดทางเดิน ทางเข้าออก จะทำให้เกิดอาเพศ ทางเหนือเรียกกันว่าขึดบ้านขึดเมือง โบราณเชื่อกันว่าใครปิดบ่อน้ำ ปิดประตู ทางเข้าออก ทางเดิน ปิดกั้นความสะดวกของประชาชน จะเกิดอาเพศกับคนผู้นั้น อาจถึงขั้นเจ็บป่วยหนัก หรือ ตาบอด เพราะไปปิดทางคนอื่น ใครที่คิดทำจะเกิดอาเพศตามมา
เจ้าอาวาสวัดพันอ้น บอกว่า การทำประชาพิจารณ์สำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านก่อนที่จะมีการทดลองรูปแบบถนนดังกล่าว ไม่มีการสอบถามความเห็นกับกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย ที่เชิญไปก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยเท่านั้น จึงไม่อาจถือว่าเป็นความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่มีส่วนได้เสีย
หลังจากนี้หากพ้นช่วงระยะเวลาของการทดลองและยังเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปจะนำชาวบ้านไปยื่นหนังสือให้กับเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้เวลาเจ็ดวันในการพิจารณาทบทวนและยกเลิก แต่หากล่วงพ้นเวลาดังกล่าวไปแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็จะพาชาวบ้านไปยื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการเชียงใหม่เพื่อพิจารณาช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
สำหรับถนนราชดำเนิน เทศบาลนครเชียงใหม่มีการทดลองปรับรูปแบบการเดินรถบนถนนราชดำเนิน ถนนสายสำคัญกลางเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่บริเวณแยกประตูท่าแพไปจนถึงหน้าวัดพระสิงห์วรวิหาร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จากเดิมที่ให้รถวิ่งสวนทาง มาทดลองให้รถวิ่งทางเดียว โดยให้รถวิ่งทางเดียวในช่องทางด้านขวา ส่วนช่องจราจรด้านซ้าย มีการตีเส้นแบ่งให้เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์และจักรยานยนต์ ส่วนพื้นที่ด้านซ้ายสุดชิดขอบทาง เป็นช่องทางสำหรับรถจักรยาน ซึ่งการทดลองการเดินรถทางเดียวรูปแบบใหม่นี้ มีเสียงสะท้อนจากคนเชียงใหม่จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเป็นการจัดรูปแบบที่สับสน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ดูรกตา
