‘เสี่ยเก๋า’ ได้สร้อยคืนแล้ว หลังผู้ก่อเหตุเห็นข่าว แล้วนำมาวางคืนไว้ที่เดิม พร้อมเขียนจดหมายโทษ อ้างทำไปเพราะเมาและขาดสติ ด้านเจ้าของโพสต์เผยไม่ติดใจเอาความ ขอให้เป็นบทเรียน และอย่าทำเช่นนี้อีก
วันที่ 21 พ.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ความคืบหน้ากรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อว่า “กิ่ง ท่าแพ” ได้โพสต์เรื่องราวกรณีเหตุการณ์ ชายวัยรุ่นอายุไม่เกิน 30 ปี ก่อเหตุขโมยเงินที่อยู่ในตะกร้าที่ใช้รับเงินสำหรับผู้เข้ามาใช้บริการ แถมยังหยิบเอาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และยังขโมยสร้อยคอน้องแมว ชื่อว่า “เสี่ยเก๋า” แมวพิการตาบอด กรามหักจากการประสบอุบัติเหตุรถชน แล้วถูกเก็บมาเลี้ยงภายในโครงการแอทราชดำเนิน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณย่านท่าแพ ด้านหลังโรงแรมโฮเทล เอ็ม เชียงใหม่ ซึ่งจะนอนเฝ้าหน้าห้องน้ำโครงการเป็นประจำ โดยสร้อยคอดังกล่าว เป็นสร้อยพลาสติกชุบทองที่ใส่อยู่บนคอ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 19 พ.ค.64 ที่ผ่านมา และต่อมาได้มีการประกาศติดตามหาตัวชายหนุ่มทั้ง 2 คนที่ปรากฏภายในคลิปกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดภายหลังจากที่มีข่าวปรากฏในโลกโซเชียล ทางชายผู้ก่อเหตุได้เดินทางนำทรัพย์สินทั้งหมดมามอบคืนให้กับทางโครงการแล้ว โดนเจ้าตัวได้เข้ามานำสิ่งของวางยังบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งทิ้งจดหมายเขียนลายมือลงในกระดาษแผ่นหนึ่ง ระบุว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นผมขอโทษครับ ที่หยิบเจลแอลกอฮอล์และสร้อยคอ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นของแมว เพราะผมเห็นมันตกและขาดตามสภาพนี้อยู่แล้ว ที่ผมทำไปเพราะผมอยู่ในอาการเมาและขาดสติ พอมาเห็นข่าวตัวเองรู้สึกตกใจและเสียใจกับการกระทำของผม ผมไม่ได้ตั้งใจจะขโมยของแมว ผมขอโทษกับการกระทำของผมด้วยนะครับ” ซึ่งภายหลังจากที่ทางชายคนดังกล่าวได้นำของมาคืนแล้วนั้น ทางด้านเจ้าของโพสต์ได้มีการนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงโซเชียลอีกครั้งถึงความคืบหน้าของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งก็มีผู้พบเห็นเรื่องราวเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ในเวลาต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่ น.ส.กิ่งกาญจน์ ไชยวรรณ์ อายุ 39 ปี ผู้จัดการทั่วไปโครงการแอทราชดำเนินพลาซ่า โดยเจ้าตัวบอกว่า ภายหลังจากคลิปและข่าวกรณีเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นาน ช่วงเย็นวานนี้ (20 พ.ค.64) เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ชายคนดังกล่าวที่ปรากฏภายในคลิปซึ่งเป็นคนที่เอาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และสร้อยคอแมวก็ได้นำของทั้งหมดมาคืน ซึ่งประกอบด้วย เจลแอลกอฮอล์ 2 ขวด , เงินสด 60 บาท (ธนบัตรใบ 20 จำนวน 3 ใบ) , สร้อยคอของแมว และจดหมายเขียนด้วยลายมือ ใส่ถุงหิ้วสีชมพูมาวางไว้ยังโต๊ะบริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเดินออกไป โดยเจ้าตัวจอดรถไว้ยังบริเวณด้านนอกห่างจากโครงการ
อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้น ภายหลังจากที่เจ้าตัวสำนึกผิดและได้นำของมาคืนทั้งหมด ซึ่งตนก็ได้อ่านจดหมายที่ทางชายคนดังกล่าวเขียนไว้แล้ว และไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เมื่อได้ของคืนแล้ว แต่อยากให้เรื่องราว ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นบทเรียนกับชายคนนี้ และไม่อยากให้ไปกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก เพราะจะติดเป็นนิสัยลักเล็กขโมยน้อย และอาจจะไม่ได้โชคดีอย่างเช่นในครั้งนี้ และอยากให้ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นต่อไป