จังหวัดเชียงใหม่ เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา(อินเดีย) แล้วจำนวน 2 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่จังหวัดปทุมธานี เน้นย้ำประชาชนป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม สร้างภูมิคุ้มกันหมู่
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 64 นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ว่า ขณะนี้มีสายพันธุ์หลัก ๆ ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดคือสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เริ่มต้นมาจากประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าสายพันธุ์นี้ไม่ได้ทำให้เกิดการเสียชีวิตหรืออัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น แต่มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อังกฤษประมาณ 1.4 – 1.6 เท่า ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแล้วจำนวน 2 ราย เป็นผู้มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่จังหวัดปทุมธานี และในหลายพื้นที่ก็เริ่มพบสายพันธุ์นี้แล้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นกังวลคือประสิทธิภาพของวัคซีน เพราะสายพันธุ์เดลตาที่เกิดการกลายพันธุ์นี้อาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงและอาจต้องใช้ภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นกว่าเดิม กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ปรับแผนในการฉีดวัคซีนให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ที่จะต้องระวังอย่างใกล้ชิดอีก 1 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เบตา จากประเทศแอฟริกาใต้ ที่เริ่มพบการนำเชื้อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ซึ่งสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีผลเรื่องความรุนแรงที่ชัดเจน แต่ที่น่ากังวลคือความสามารถในการแพร่เชื้อ เพราะฉะนั้นจังหวัดเชียงใหม่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุม และมีผู้ได้รับวัคซีนจนครบ 2 เข็ม หรือต้องมีการกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยคาดว่าจะครอบคลุมและบรรลุเป้าหมายในช่วงปลายปี จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันตนเอง ทั้งการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร การสวมหน้ากากอนามัย การงดการรวมกลุ่มหรือทำกิจกรรมเสี่ยง หมั่นล้างมือ และเฝ้าระวังสังเกตอาการ ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติหรือมีประวัติเสี่ยงให้เข้ารับการตรวจได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด