กล้อง AI จับไม่สวมหมวกกันน็อก 5 อำเภอ จราจรเชียงใหม่เผยได้ผลดีเยี่ยม สวมหมวกเกือบ 100% ลดการเกิดอุบัติเหตุ

895

กล้อง AI จับไม่สวมหมวกกันน็อก 5 อำเภอ จราจรเชียงใหม่เผยได้ผลดีเยี่ยม สวมหมวกเกือบ 100% ลดการเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.เจนโสภา ผกก.กลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ งานจราจรสถานีตำรวจภูธรแม่ริม-สันทราย-สารภี -หางดง ได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเชียงใหม่ แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ( สอจร ) ภาคเหนือได้สรุปข้อมูลระบบกล้องอัจฉริยะ หรือกล้องเอไอ ใช้ตรวจจับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเพื่อสร้างวินัยให้กับผู้ขับขี่และลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยกล้องเอไอถูกติดตั้งจุดสำคัญ 16 จุด ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง , อ.แม่ริม , อ.สารภี , อ.หางดง และ อ.สันทราย ที่เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.เมือง ที่มักเกิดอุบัติเหตุและพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนสูงกว่ากลางวัน โดยนำข้อมูลสรุปผลการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวครบรอบ 6 เดือนโดยระบบกล้องเอไอนี้จะมีระบบเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจจับหมวกนิรภัยเป็นหลัก ในการทดสอบมีความแม่นยำถึง 98 เปอร์เซ็นต์ และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เพื่อตรวจวัน เวลา และสถานที่ รวมไปถึงหมายเลขทะเบียนรถ เพื่อลดข้อโต้แย้งกรณีผู้ขับขี่ถูกตรวจจับที่สามารถมาขอตรวจสอบได้ โดยหากกล้องตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย ระบบจะมีการพิมพ์ใบสั่งอัตโนมัติเพื่อส่งไปยังเจ้าของรถ

ในที่ประชุมได้สรุปข้อมูลสถิติมีผู้สวมใส่หมวกนิรภัยในช่วงเวลากลางวัน เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนไม่สวมใส่หมวกนิรภัยในช่วงเวลากลางคืนจึงขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการประชาสัมพันธ์และกวดขันในช่วงเวลากลางคืน ซึงมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าช่วงเวลากลางวัน

จากการตรวจสอบสถิติของการเกิดในส่วนของรถจักรยานยนต์ สามารถลดความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเทียบสถิติ ของปี 2563 กับ 2564 ในห้วงเดือน มกราคมถึงมิถุนายน ถึง 58 ราย

เบื้องต้นมีข้อสรุปในที่ประชุมมีสถิติการสวมใส่หมวกนิรภัยมากขึ้นและสามารถลดความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุได้มากโดยนำข้อมูลดังกล่าวและได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไปโดยเฉพาะการใช้มาตรการประชาสัมพันธ์ควบคู่การบังคับใช้กฎหมายโดยจะนำข้อมูลสรุปผลของโครงการดังกล่าวมาประชาสัมพันธ์ให้รับทราบต่อไป