ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ชี้แจงเหตุการณ์ และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย เผยเตรียมแจ้งความดำเนินคดีหนุ่มแกร็บคาร์ทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง
จากกรณีที่นายสุชาติ ไชยประยา ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่าถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทำร้ายร่างกาย ขณะขับรถมารับผู้โดยสารชาวต่างชาติ ที่ใช้บริการผ่าน Application Grab Car ในท่าอากาศยานเชียงใหม่ จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว นั้น ในวันนี้ (22 กรกฎาคม 2562) นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเปิดเผยรายละเอียดภายหลังรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 17.50 น. นายสุชาติ ไชยประยา ได้ขับรถยนต์ส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน งธ 8161 เชียงใหม่ มารับผู้โดยสารชาวต่างชาติที่บริเวณประตูทางออกหมายเลข 11 เจ้าหน้าที่ตระเวนตรวจพบว่าเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาประกอบกิจการในเขตท่าอากาศยาน จึงขอตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร นายสุชาติได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามและขอให้จอดรถเพื่อตรวจสอบที่บริเวณประตูหมายเลข 5 โดยขอให้นายสุชาติ มาดำเนินการบันทึกประวัติ ที่ห้องศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ แต่นายสุชาติ กลับใช้วาจาด่าทอดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ มีการขัดขืนข่มขู่ และนำกระบองเหล็กออกมาข่มขู่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งส่งเสียงดังโวยวาย สร้างความรำคาญ รบกวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการอื่นๆ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัย มาเชิญตัวเพื่อแจ้งข้อหา 3 ข้อหาคือ 1.นำยานพาหนะโดยสารที่ไม่มีผู้โดยสารเข้ามาในเขตท่าอากาศยาน ที่เป็นลักษณะการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จอดรถกีดขวางทางจราจรภายในเขตท่าอากาศยาน และ 3.แนะนำให้ผู้โดยสารใช้ยานพาหนะรับจ้างที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ทอท.แต่นายสุชาติปฏิเสธการจ่ายค่าปรับและส่งเสียงดังสร้างความรำคาญภายในอาคารผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์มารับตัวไป เนื่องจากนายสุชาติไม่ยอมไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท่าอากาศยาน อย่างไรก็ตาม นระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์มารับตัว นายสุชาติ ร้องขอเข้าห้องน้ำ และเมื่อออกจากห้องน้ำนายสุชาติ ได้พยายามหลบหนี พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพส่งเสียงดังโวยวาย เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องควบคุมตัวเข้าไปในห้องศูนย์ร่วมฯ นายสุชาติได้ดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมให้อยู่ในความสงบด้วยการใส่กุญแจมือไพล่หลัง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนในการปฏิบัติงาน โดยขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้รุมซ้อมหรือทำร้ายร่างกายตามที่นายสุชาติกล่าวหา
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำเป็นต้องกวดขัน ป้องปราม และดำเนินการกับรถที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ซึ่งรวมถึงGrab Car ที่เข้ามาในเขตพื้นที่ท่าอากาศยาน ที่ถือเป็นพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบัน รถ Grab Car ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะตามพระราชบัญญัติของ กรมการขนส่งทางบก จึงอาจเป็นช่องว่างที่จะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้กำหนดมาตรการดำเนินการกับรถ Grab Car คือ หากเป็นการตรวจพบครั้งแรก จะบันทึกประวัติและว่ากล่าวตักเตือน และหากพบในครั้งต่อๆ ไป จะเปรียบเทียบปรับเป็นเงินตั้งแต่ 50 -2,000 บาท ตามประกาศกระทรวงคมนาคม ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555 ซึ่งกรณี ของนายสุชาติ เป็นการตรวจพบครั้งแรก เจ้าหน้าที่จึงขอให้บันทึกประวัติ แต่นายสุชาติกลับ ไม่ให้ความร่วมมือ จนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และเพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กร รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุชาติ ต่อไป
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
-แกร็บประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีหนุ่มแกร็บคาร์ถูกทำร้ายร่างกายที่สนามบินเชียงใหม่
–(มีคลิป Video)หนุ่มแกร็บคาร์โร่แจ้งความพร้อมหลักฐาน ยันถูกเจ้าหน้าที่สนามบินทำร้ายจริง
–สนามบินเชียงใหม่แจง หนุ่ม Grab Car กล่าวอ้างถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.สนามบินทำร้ายร่างกาย