รองนายแพทย์ สสจ.เชียงใหม่ คาดเดือนสิงหาคมนี้ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 เข้ามาเพิ่มเติมในจังหวัดเชียงใหม่ อีก 4 แสนโดส
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 นายวรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชน โดยเน้นความจำเป็นใน 4 เรื่องหลัก คือ ป้องกันบุคคลไม่ให้เจ็บป่วยและเสียชีวิต ป้องกันเชื้อแพร่กระจายสู่สังคม ป้องกันระบบสาธารณสุข และขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ จากการเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆ ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้หลายจังหวัดในประเทศไทยได้รับการจัดสรรวัคซีนไม่ครบตามเป้าหมายที่ ศบค. ได้แจ้งยอดการจัดสรรให้ตั้งแต่แรก เนื่องจากต้องนำไปใช้ในพื้นที่จำเป็นและมีการระบาดโรครุนแรงกว่า โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนลดลงเหลือเพียง 1 แสนกว่าโดส จากเป้าหมายที่ได้รับแจ้งไว้แต่แรก 4 แสนโดส ทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามที่นัดหมายไว้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากปริมาณวัคซีนมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ในกรุงเทพมหานครและหลายพื้นที่การระบาด เริ่มได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากขึ้นแล้ว ประกอบกับมีวัคซีนทยอยเข้ามาสู่ประเทศไทยมากขึ้น จึงคาดว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ จังหวัดเชียงใหม่น่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเข้ามาตามเป้าหมาย จำนวน 4 แสนโดส โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องฉีดวัคซีนที่ได้รับจัดสรรมาก่อนหน้านี้ให้ได้มากที่สุดก่อน จึงจะได้รับจัดสรรเข้ามาเพิ่มในรอบต่อไปเต็มจำนวน ทั้งนี้ วัคซีนที่จัดส่งให้จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการทยอยส่งมาเป็นรอบย่อย ไม่ได้ถูกส่งมาเต็มจำนวนในครั้งเดียว อาจจะเป็นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรร แล้วนำมาบริหารจัดการฉีด ร่วมกับปริมาณวัคซีนที่คงเหลืออยู่ของจังหวัด ผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการประชุมทุกวัน เพื่อวางแผน แก้ไขสถานการณ์ให้มีการกระจายวัคซีนถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ ได้เริ่มทยอยเรียกผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้ในระบบ “ก๋ำแปงเวียง” เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากกลุ่มเสี่ยงสูง 608 ซึ่งหมายถึง กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โดยทางจังหวัดจะเร่งดำเนินการเรียกผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดภายในสัปดาห์นี้ และทยอยเรียกผู้ลงทะเบียนกลุ่มอื่น ๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับถัดไป