ชื่นชมหนุ่มไอเดียเก๋ จากคนขับแท็กซี่ตกงาน ผันตัวเปิดร้านกาแฟริมทางสุดแนว กระแสตอบรับดีเกินคาด เจ้าตัวเผยไม่ย่อท้อลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สู้วิกฤติโควิด-19

3853

ชื่นชมหนุ่มไอเดียเก๋ จากคนขับแท็กซี่ตกงาน ผันตัวเปิดร้านกาแฟริมทางสุดแนว กระแสตอบรับดีเกินคาด เจ้าตัวเผยไม่ย่อท้อลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สู้วิกฤติโควิด-19

วันที่ 13 ส.ค. 64 รายงานข่าวได้ทราบมาว่า ขณะนี้ที่บริเวณถนนด้านข้างสนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด .ดอยสะเก็ด .เชียงใหม่ ได้มีร้านกาแฟร้านหนึ่งเกิดขึ้น กลายเป็นแลนด์มาร์กและจุดเช็กอินที่กำลังได้รับความนิยมของบรรดากลุ่มวัยรุ่นและประชาชนที่ขับรถผ่านไปมาบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก จากการที่โลเคชันที่บริเวณดังกล่าวมีความร่มรื่น เย็นสบาย มีต้นไม้ใหญ่ ทำให้มีประชาชนแวะมานั่งพัก และพากันมาอุดหนุนร้านกันเป็นจำนวนมาก ส่วนรสชาตินั้นก็อร่อยไม่แพ้ร้านกาแฟชื่อดังหลายๆ ร้าน และราคากาแฟนั้นก็ไม่แพง อยู่ที่ราคาแก้วละ 30-35 บาท ซึ่งต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตามที่ทราบข้อมูลมา พบว่าที่จุดดังกล่าวมีร้านกาแฟที่เปิดเป็นรถกาแฟ ที่มีเอกลักษณ์เป็นรถสองแถวสีเหลือง หรือที่ประชาชนในพื้นที่รู้จักกันดีว่าเป็นรถโดยสารประจำอำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งได้มีการดัดแปลงตกแต่งให้ด้านหลังรถกลายเป็นร้านขายกาแฟเก๋ๆ และมีม้านั่งใต้ต้นไม้คอยบริการให้กับลูกค้าและผู้ที่แวะเวียนมาอุดหนุนที่ร้าน โดยพบว่าตลอดทั้งวันมีคนพากันมาอุดหนุนนั่งดื่มกาแฟและถ่ายภาพกับโลเคชันแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก

ส่วนร้านกาแฟดังกล่าวมีชื่อร้านว่า Mobile Cafe’ ที่มี นายจิรายุ นะหมี อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของไอเดียรถกาแฟริมทางสุดเก๋ร้านนี้ ซึ่งเจ้าตัวได้มาตั้งร้านขายบริเวณดังกล่าวมาได้ประมาณ 3 สัปดาห์ จากที่ก่อนหน้านี้ตนได้ตระเวนขับรถขายกาแฟจามตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งมาเจอสถานที่แห่งนี้ จึงปักหลักขายกาแฟริมทางโดยมีแฟนสาวช่วยกันขาย ตั้งแต่เช้าเวลาประมาณ 08.00 น. จนถึงช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มากกว่าที่ไปขับตระเวนขายตามตัวเมืองเชียงใหม่ โดยที่เจ้าตัวคิดว่าสาเหตุที่ได้รับการตอบรับที่ดีนั้นเกิดจากโลเคชันสถานที่ที่ลงตัวและคอนเซ็ปท์ของร้านที่ลงตัว ทำให้มีลูกค้าสนใจ เดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ทางด้าน นายจิรายุ นะหมี อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่มาเริ่มขายกาแฟนั้นมาจากการที่ตนตกงาน โดยก่อนหน้านี้นั้นมีอาชีพขับแท็กซี่มิเตอร์ที่สนามบิน แต่ภายหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามา ก็ทำให้จังหวัดมีการล็อกดาวน์ ทำให้ตนต้องหยุดทำงาน และหลังจากที่ผ่านพ้นล็อกดาวน์ ตนก็ออกมาทำงานรับจ้างแต่ตอนนั้นตนก็เริ่มที่จะรู้จักโมก้าพอ จากการที่ตนไปนั่งกินกาแฟ ประกอบกับช่วงนั้นตนไม่ได้ไปไหน จึงซื้ออุปกรณ์มาทำเองที่บ้าน จนเกิดเป็นความชอบและเริ่มซื้ออุปกรณ์สะสมทีละเล็กละน้อย และต่อมาตนก็มีโอกาสได้คุยกับน้องที่รู้จักชื่อว่า “น้องมาย” ซึ่งมีอาชีพขายกาแฟในลักษณะเป็นรถเปิดขายกาแฟแบบหม้อต้ม ตนจึงได้ไอเดียร์มาต่อยอดในการจะทำอาชีพขายกาแฟ แต่ก็ยังไม่มีทุนในการเปิดร้าน จึงได้วางแพลนไว้ และเริ่มทำงานเก็บเงินด้วยการรับจ้างทั่วไป , รับจ้างก่อสร้าง และเป็นพนักงานไรเดอร์ส่งอาหาร จนกระทั่งเจอรถคันที่ใช้เปิดร้านที่เชียงราย โดยทางเจ้าของรถก็ขายให้ในราคาถูก ตนจึงนำเงินทุนที่เก็บไว้จากการทำงานมาเริ่มลงทุนกับการเปิดร้าน และเริ่มปรับปรุง ซ่อมแซม ตกแต่งรถคันนี้ให้กลายเป็นร้านกาแฟ

ขณะเดียวกันตนก็อาศัยการเรียนรู้ในเรื่องของการชงกาแฟ และฝึกฝนอยู่ประมาณ 5-6 เดือน ด้วยการลองผิดลองถูก และปรับปรุงรสชาติ ประกอบกับตนมีพื้นฐานที่ก่อนหน้านี้ซื้ออุปกรณ์มาชงกินเองที่บ้าน และการที่เป็นคนชื่นชอบการดื่มกาแฟอยู่แล้ว จนเมื่อเริ่มจริงจังกับมันก็ทำให้ตนใช้เวลาไม่นานที่จะทำให้กลายเป็นอาชีพได้ ส่วนรถที่ใช้ในการขายกาแฟนั้นก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะตนมีเงินก้อนที่เก็บสะสมไว้ เมื่อได้รถมาก็อาศัยทยอยค่อยๆ ทำไป ด้วยการนำเงินรายได้ที่ได้จากการทำงานรับจ้าง , เป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ทยอยทำมาเรื่อยๆ จนประมาณ 8-9 เดือน ตั้งแต่ที่จังหวัดเชียงใหม่มีการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 เข้ามา และเริ่มทยอยทำรถมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นมาอีกระลอกที่ 3 ตนจึงตัดสินใจเริ่มออกมาขายกาแฟ

ส่วนบริเวณที่ขายทุกวันนี้ และกลายเป็นแลนด์มาร์ก ได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับที่ดีนั้นตนก็เพิ่งมาเจอเมื่อช่วง 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้เท่านั้น จากการที่ก่อนหน้านี้ตนขับรถไปขายกาแฟตามตัวเมืองเชียงใหม่ แต่จากการเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ทำให้เจ้าของพื้นที่ต้องขอให้ตนหยุดขายไป และเริ่มหาโลเคชันที่จะตั้งร้านขายใหม่ จนกระทั่งมาทราบจากพี่ชายว่าที่บริเวณด้านข้างสนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด มีถนนด้านข้างที่ร่มรื่นเย็นสบาย ตนจึงมาสำรวจดูก็พบว่าตอบโจทย์กับการตั้งร้านของตน ประกอบกับมีองค์ประกอบที่ดีที่ตนรู้สึกชอบ ทำให้ตนตัดสินใจตั้งจุดขายกาแฟที่แห่งนี้ และต่อมามีประชาชนพากันแวะเวียนมาอุดหนุนก็เห็นว่าเป็นมุมถ่ายรูป นั่งพักผ่อนร่มรื่น กลายเป็นกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด และตนก็มีความสุขกับการเปิดร้านบริเวณนี้ เพราะมีบรรดาคนรู้จัก และประชาชนทั่วไป แวะเวียนมาอุดหนุนตลอดทั้งวัน รวมทั้งตนก็ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจทำด้วย

นายจิรายุ บอกอีกว่า ตนอยากฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ ตกงาน จากการได้รับผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 หรือคนที่กำลังมองหาช่องทางทำอาชีพใหม่ว่า หากมีเวลาได้อยู่กับตัวเองลองคิดดูว่าตัวเองอยากทำอะไร ชื่นชอบอะไร และสิ่งที่ชอบนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอาชีพได้หรือไม่ ก็ลองลงมือศึกษาดู และหากเกิดมีช่องทางพอที่จะนำมาทำเป็นอาชีพไปแล้วนั้นก็ขอให้ลองลงมือทำดู อาจจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน สะสมประสบการณ์แล้วลองตั้งใจทำดู ซึ่งตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่นาน เพราะความรู้หรือสิ่งเหล่านี้สามารถหาศึกษาได้จากสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป อยู่ที่ว่าตัวเองชอบอะไร ลองตัดสินใจและลงมือทำดู หากเป็นสิ่งที่รัก ที่ชื่นชอบ ตั้งใจทำแล้วออกมาดี ตนเชื่อว่าจะกลายเป็นอาชีพได้ และยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองไปในตัวด้วย