เชียงใหม่วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 62 ราย มากสุดที่คลัสเตอร์ ต.หางดง อ.ฮอด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากถึง 30 ราย 

1602

เชียงใหม่วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 62 ราย มากสุดที่คลัสเตอร์ ต.หางดง อ.ฮอด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากถึง 30 ราย 

วันนี้ (13 ส.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 62 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดจากคลัสเตอร์อำเภอฮอด สำหรับวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 33 ราย

โดยรายละเอียดของผู้เสียชีวิต เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 32 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นชายไทย อายุ 74 ปี มีโรคประจำตัวและประวัติสุขภาพ คือ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ติดเชื้อภายในครอบครัว ไม่เคยรับการฉีดวัคซีนโควิด -19 โดยประวัติ คือ วันที่ 29 กรกฎาคม ลูกเขยติดเชื้อโควิด จึงเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลชุมชน พบว่าติดเชื้อโควิด จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนาม วันที่ 3 สิงหาคม ผู้ป่วยเป็นลมล้มในห้องน้ำ จึงส่งมาตรวจที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ยังรู้สึกตัวดี สัญญาณชีพปกติ จึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสันทราย ต่อมาวันที่ 8 สิงหาคม มีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำลง ความดันโลหิตต่ำลง จึงส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และวันที่ 11 สิงหาคม ระบบหายใจล้มเหลว ไตวาย กระทั่งวันที่ 12 สิงหาคม ได้เสียชีวิตลง

ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 33 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 91 ปี มีโรคประจำตัวและประวัติสุขภาพ คือ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นผู้ป่วยติดเตียง ปัจจัยเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด ไม่เคยรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีประวัติ คือ ในระหว่างเดือนกรกฎาคมได้รักษาตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่กรุงเทพฯ และพบว่ามีการระบาดของโรคโควิดในศูนย์ วันที่ 30 กรกฎาคม เริ่มมีไข้ ออกซิเจนในเลือดต่ำ ตรวจพบติดเชื้อโควิด ต่อมาวันที่ 6 สิงหาคม เริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ และส่งตัวต่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม พบติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ระบบหายใจล้มเหลว ไตวาย กระทั่งวันที่ 12 สิงหาคม ได้เสียชีวิตลง

การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส เมื่อวานนี้ (12 ส.ค. 64) ตรวจทั้งหมด 1,734 ราย พบผู้มีผลบวก 62 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.58 ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อหลักๆ ยังคงเป็นการนำเข้าจากต่างจังหวัดที่มีสัดส่วนสูงอยู่ การสัมผัสในครอบครัว และการสัมผัสในสถานที่ทำงาน มีแนวโน้มลดลง ส่วนปัจจัยการสัมผัสในชุมชน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากคลัสเตอร์อำเภอฮอด ทำให้ภาพรวมการสัมผัสในครอบครัวลดลงเหลือร้อยละ 23.6 สัมผัสจากต่างจังหวัดเพิ่มเป็นร้อยละ 15.3 สัมผัสในชุมชน เพิ่มเป็นร้อยละ 14.8 และสัมผัสในที่ทำงานเพิ่มเป็น ร้อยละ 12.5

ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงคนงานเก็บลำไย ขณะนี้ตรวจไปแล้ว 12 อำเภอ ได้แก่ ดอยสะเก็ด จอมทอง ดอยเต่า สันทราย ดอยหล่อ แม่แตง ฮอด พร้าว เชียงดาว ฝาง สันกำแพง และสันป่าตอง รวมทั้งหมด 7,479 ราย พบผู้มีผลบวก ที่อำเภอดอยหล่อ 1 ราย ซึ่งจากการสอบสวนพบเป็นผู้ติดเชื้อที่รักษาหาย และมีใบรับรองแพทย์แล้ว ถือว่าปลอดภัย ด้านการตรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด ที่สนามบินเชียงใหม่ ตรวจไป 8 ราย สถานีรถไฟตรวจไป 31 ราย สถานีขนส่งอาเขตตรวจไป 2 ราย และรถยนต์ส่วนตัวที่ด่านดอนจั่น ตรวจไป 42 ราย พบผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนคนขับรถบรรทุกและผู้ติดตาม ที่ด่านสารภีตรวจไปทั้งหมด 70 ราย พบผู้มีผลบวก 1 ราย ส่วนการตรวจเชิงรุก เมื่อวานนี้มีการตรวจไปหลายสถานที่เสี่ยง โดยทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจที่ร้าน Premium outlet จำนวน 124 ราย สถานที่กักกันที่ศูนย์เรียนรู้แม่ริม จำนวน 19 ราย สถานปฏิบัติธรรมไท่หลิน แคมป์สุเทพ จำนวน 49 ราย พบผู้มีผลบวก 31 ราย

สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 62 ราย มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 37 ราย มาจากคลัสเตอร์ หมู่ 10 ตำบลหางดง อำเภอฮอด 30 ราย โรงแรมเลอเมอริเดียน 1 ราย ร้านอินเตอร์แฟบริค กาดหลวง 1 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 2 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 2 ราย ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัด 25 ราย มาจากเชียงรายมากที่สุด 10 ราย กรุงเทพมหานคร 8 ราย ชลบุรี 3 ราย สมุทรสาคร สมุทรปราการ อยุธยา และราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย

โดยผู้ที่เดินทางมาจากเชียงราย เดินทางมาจากโรงอบลำไยรียูเนี่ยน อำเภอพาน ซึ่งมีการระบาดในโรงงาน เข้ามาที่อำเภอไชยปราการ ทีมโควิดหมู่บ้านทำการกักตัวและตรวจ Swab พบมีผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้จำนวน 3 ราย วันนี้พบ 10 ราย รวมทั้งหมด 13 ราย จากผู้ที่กักตัว 17 รายที่เข้ามา จึงขอประกาศให้ผู้ที่เดินทางไปติดต่อซื้อขายขนส่งลำไย หรือพนักงานที่หลับบ้าน จากบริษัทรียูเนี่ยนบ้านป่าแดงงาม ตำบลสันมะเค็ด อำเภอพาน จังหวัดเชียงใหม่ ให้สังเกตอาการตนเอง และกักตัว 14 วัน หากพบอาการผิดปกติ ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที

ส่วนร้านอินเตอร์แฟบริค เป็นการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานขายผ้า จำนวน 3 ราย ซึ่งพักอาศัยในห้องพักเดียวกัน และข้างเคียง โดยขณะนี้ทีมสอบสวนโรคกำลังลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ และสอบสวนหาแหล่งสัมผัสโรค

สำหรับรายละเอียดข้อมูลผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ต่างๆ มี ดังนี้

คลัสเตอร์ตำบลหางดง อำเภอฮอด วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 30 ราย เป็นการติดเชื้อกระจายไปยังผู้สัมผัสร่วมชุมชน โดยเด็กที่เล่นฟุตบอลด้วยกัน รวมทั้งเจ้าของร้านโกข้าวมันไก่ และพนักงานอีก 2 คนในหมู่ที่ 2 ตำบลหางดง รวมคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 57 ราย จึงขอประกาศให้ผู้เข้าใช้บริการร้านโกข้าวมันไก่และร้านขายน้ำหวาน (ข้างร้านโกข้าวมันไก่) ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม -12 สิงหาคม 2564 ให้กักตัวสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ พร้อมกักตัวเอง 14 วัน

ส่วนคลัสเตอร์โรงแรมเลอเมอริเดียน ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ วันนี้พบผู้ติดเชื้อเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน 1 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมของคลัสเตอร์นี้ 14 ราย จากการสอบสวนคาดว่ามาจากการสัมผัสลูกค้าของแผนกต้อนรับและกระจายไปยังเพื่อนร่วมงาน แผนกทำความสะอาด แผนกครัว และ รปภ. โดยเฉพาะแผนกครัว มีการกระจายเชื้อต่อไปยังญาติใกล้ชิดและคนข้างบ้าน

ทั้งนี้จึงออกประกาศให้ลูกค้าผู้ใช้บริการโรงแรม ระหว่างวันที่ 2-11 สิงหาคม 2564 ให้สังเกตอาการตนเอง หากพบมีความผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจ Swab พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง

และขอแจ้งถึงผู้ใช้บริการร้านตัดผมคิวทองบาร์เบอร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้วัดเสาหิน ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2564 รวมทั้งร้านขายน้ำเต้าหู้ (ตอนเช้า) และขายข้าวมันไก่ (ตอนเย็น) ซึ่งติดกับร้านตัดผมคิวทองฯ ระหว่างวันที่ 6-10 สิงหาคม 2564 ให้เข้ารับการตรวจ Swab หาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง พร้อมทั้งกักตัว 14 วัน หากผลตรวจเป็นลบ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นพนักงานโรงแรมเลอเมอริเดียน

ด้านข้อมูลการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีผู้ที่รับการฉีดไปแล้ว จำนวน 312,853 ราย คิดเป็นร้อยละ 26ของประชากรเป้าหมายที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ โดยสัปดาห์นี้จังหวัดเชียงใหม่มีแคมเปญ ที่เน้นให้กลุ่มเสี่ยงสูง คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค สามารถ Walk in เข้าไปฉีดวัคซีนได้ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 ณ หน่วยฉีดอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาด้า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ และหน่วยฉีดโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง

ส่วนวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 จะเปิดให้บริการที่หน่วยฉีด หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เดียว โดยเปิดให้ Walk in ได้ตั้งแต่เวลา 10.30-15.00 น. เท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18-59 ปี ที่จองคิวในเว็บ “ก๋ำแปงเวียง” แล้ว ขอให้รอ SMS หรือข้อความที่หน่วยฉีดจะแจ้งไป เพื่อให้เข้ามาฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะไม่สามารถเข้ารับบริการ Walk in ได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแออัดซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ได้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่