เชียงใหม่ลุ้นเปิดเรียน 1 ก.ย. นี้ ด้านผู้ปกครองแนะเลิกสอบ-ดรอปเรียน ชี้เรียนออนไลน์ฉุดคุณภาพการศึกษา เหตุไม่พร้อมทั้งเด็กและผู้ปกครอง
วันที่ 23 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ยังคงมีความเห็นหลากหลายในประเด็นการเรียนออนไลน์ในสถานการณ์โควิด 19 ผู้ปกครองที่จังหวัดเชียงใหม่ชี้กระทบหนักทั้งเด็กทั้งผู้ปกครอง แนะกระทรวงศึกษาธิการสั่งงดสอบทั้งกลางภาคและปลายภาค พร้อมสนับสนุนให้หยุดเรียน 1 ปี โดยมองว่าการเรียนออนไลน์ฉุดคุณภาพการศึกษาของเด็กให้แย่ลง
ทั้งนี้ นางสาวอารดา ยงเยื้องพันธ์ หนึ่งในผู้ปกครอง ใช้เวลาหลังเลิกงานและวันหยุด สอนการบ้านน้องเพลง ลูกสาววัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ซึ่งแต่ละวิชาต้องใช้ค่อนข้างนานเนื่องจากขาดสมาธิ ผิดไปจากช่วงที่ลูกสาวเคยเรียนในห้องเรียนตามปกติ
นางสาวอารดา มองว่า การเรียนแบบออนไลน์ เหมาะสำหรับการเรียนเสริมมากกว่าและไม่สามารถใช้ทดแทนการเรียนแบบออนไซต์ตามปกติ การเรียนออนไลน์ตั้งแต่ต้นเทอมที่ผ่านมา พบว่าด้วยวัยเด็กทำให้ลูกสาวมีสมาธิตั้งใจเรียนเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถหักห้ามใจกับสิ่งเร้ารอบตัว ขณะที่การสอบกลางภาคที่ผ่านมายังพบว่าคะแนนต่ำกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังเริ่มมีปัญหาสุขภาพ โดยเริ่มบ่นปวดตา ซึ่งเชื่อว่าจะมาจากการใช้สายตามากจนเกินไป
นอกจากกระทบเด็ก ยังกระทบกับผู้ปกครอง โดยเฉพาะครอบครัวที่ผู้ปกครองต้องออกไปทำงาน ไม่มีใครคอยดูแลระหว่างเรียน เด็กหลายคนจึงแอบไปเล่นเกมหรือไปทำอย่างอื่น ผู้ปกครองต้องคอยโทรศัพท์ไปกระตุ้นบุตรหลานและคอยช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาในระบบการเรียนจนกระทบกับงาน ขณะที่บางคนอย่างเช่นตนเอง เมื่อเลิกงานในช่วงค่ำ ต้องรีบกลับไปปรินท์เอกสารการบ้านและสอนการบ้านให้ลูกให้เสร็จ กว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาดึก ขณะที่อีกหลายบางครอบครัวต้องทิ้งลูกหลานให้อยู่กับผู้สูงอายุที่ไม่มีความรู้ด้านไอที
นางสาวอารดา บอกว่า การเรียนออนไลน์ไม่สามารถทดแทนการเรียนแบบปกติได้ แต่กลับส่งผลเสียกับเด็กมากกว่า จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งงดสอบเก็บคะแนน เพราะเชื่อว่าไม่สามารถวัดคุณภาพการเรียนของเด็กส่วนใหญ่ได้ พร้อมกับแนะให้มีการพักการเรียนไปก่อน 1 ปี โดยมองว่ายอมเสียเวลา ดีกว่าปล่อยให้เด็กเรียนแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาต่อเนื่องในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งปิดสถานศึกษาทุกระดับชั้นสองครั้งติดต่อกันหลังเปิดเทอมได้เพียงสองสัปดาห์ โดยคำสั่งล่าสุดจะมีผลถึงวันที่ 31 สิงหาคม ส่วนจะมีคำสั่งขยายเวลาต่อไปอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอีกครั้ง