ตร.ภาค 5 ขยายผลทลายเครือข่าย “แม่เล้าจุ๊บแจง” ลวงเด็กชาย-หญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ค้าประเวณี พบลูกค้าใช้บริการทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการบำนาญ และพระสงฆ์ เตรียมขยายผลต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 24 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อม พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ทางศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับกุมตัว หญิงที่เป็นแม่เล้า อายุ 29 ปี พร้อมพวก ในความผิดฐาน ข้อหา “ร่วมกันสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี , เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม เป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี , เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม , พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจารและยุยงส่งเสริมเด็กประพฤติไม่สมควร” และต่อมาได้มีการขยายผลการจับกุมในเครือข่ายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 22 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจับกุมเพิ่มเติมได้อีก 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแม่เล้าชักชวนไปค้าประเวณีให้แก่ลูกค้าชาย ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นชายสูงอายุจะติดต่อผ่านมายังแม่เล้าให้จัดหาเด็กสาวเพื่อมามีเพศสัมพันธ์และให้ค่าตอบแทนครั้งละ 1,000 – 2,000 บาท โดยนัดหมายให้แม่เล้านำเด็กสาวไปส่งยังโรงแรมต่างๆ และจากการสืบสวนยังพบว่ามีผู้ซื้อประเวณีเด็กเป็นกลุ่มชายสูงอายุ ประกอบอาชีพพ่อค้า นักธุรกิจ ผู้รับเหมา และข้าราชการบำนาญ มีการซื้อบริการทางเพศเด็กซ้ำๆ บางครั้งซื้อประเวณีเด็กพร้อมกันสองคนเพื่อไปมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่
ขณะที่ภายหลังการจับกุมกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวนี้ จากการตรวจสอบและดำเนินการขยายผล ทางเจ้าหน้าที่สามารถตามจับกุมตัวบุคคลที่กระทำความผิดซื้อบริการ จำนวนทั้งหมด 7 คน และอยู่ในระหว่างหลบหนีอีก 1 คน ซึ่งพบว่ามีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า หนึ่งในกลุ่มผู้ใช้บริการยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ ที่มีพฤติกรรมซื้อบริการทางเพศทั้งหญิงและชาย โดยนัดหมายกับเครือข่ายแม่เล้าจุ๊บแจง นำเด็กมาส่งให้ที่โรงแรมม่านรูดหรือรีสอร์ตในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยถึงกรณีจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมกลุ่มเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวกลุ่มเครือข่ายขบวนการดังกล่าวได้ 3 คน และในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมกลุ่มเครือข่ายนี้ได้เพิ่มเติมอีก อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงที่ถูกล่อลวงไปทำการค้าประเวณีอีก 4 คน โดยมีอายุ 14 ปี จำนวน 3 คน และอายุ 16 ปี อีกจำนวน 1 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กผู้ชายอายุ 16 ปี จำนวน 1 คน และอายุ 17 ปี อีก 1 คน โดยพฤติกรรมของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวนี้ จะทำการติดต่อกับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ซึ่งพบว่า มีทั้งนักธุรกิจ และอีกหลากหลายอาชีพ องค์กร ที่อยากได้เด็กมาร่วมประเวณีก็จะติดต่อมาทางแม่เล้า โดยบางรายได้ติดต่อเด็ก 2-3 คน มาร่วมประเวณีในครั้งเดียว หรือที่เรียกกันว่า สวิงกิ้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีโทษทางกฎหมายที่รุนแรง ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจึงทำให้มีโทษทางกฎหมายที่หนักขึ้นไปด้วย
ในส่วนของเครือข่ายขบวนการดังกล่าวนี้ พบว่า มีการนำเด็กที่ถูกล่อลวง ไปส่งให้ตามพื้นที่อำเภอสันกำแพง และจากการขยายผลยังพบว่ามีเด็กที่ถูกล่อลวงจำนวน 4 คน และหลังการขยายผลก็พบกลุ่มกระทำความผิดอีก 7 คน และได้มีการจับกุมดำเนินคดีในครั้งนี้ ซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์โดยอาศัยเด็กในการค้าประเวณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาค 5 ที่ผ่านมามีการจับกุมแล้วถึง 18 ราย ในปีงบประมาณนี้ และที่จะมีการขยายผลการจับกุมอีกจำนวนหลายรายในพื้นที่จังหวัดลำปาง และลำพูน โดยพฤติกรรมการซื้อขายกันนั้นทางแม่เล้าส่วนใหญ่จะได้รับการติดต่อจากผู้ชายที่มีความต้องการร่วมประเวณี จากนั้นก็จะหาเด็กมาให้ประกอบกับในช่วงนี้มีเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือเรียนออนไลน์ และกำลังหางานทำ จึงติดต่อกับแม่เล้าแล้วจึงมีการส่งเด็กไปให้กับผู้ชายที่ต้องการ
ผบช.ภ.5 ยังบอกอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใช้บริการที่ทางเจ้าหน้าที่จับกุมได้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มซื้อบริการเด็กที่เคยติดต่อกันมาก่อนและกระทำมาแล้วหลายครั้งจนเด็กผู้เสียหายจำได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เด็กจำไม่ได้ โดยละเอียดที่บางรายรู้จักเพียงชื่อเล่น หรือรู้เพียงว่าทำอาชีพอะไรเท่านั้น อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป และอยากฝากเตือนถึงบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ว่า ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งโดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 15 ปี เนื่องจากมีโทษฐานความผิดทางกฎหมายที่ค่อนข้างหนัก และในส่วนของผู้ที่ประสานงานติดต่อนั้นก็มีความผิดในข้อหาการค้ามนุษย์ ซึ่งก็มีโทษหนักด้วยเช่นกัน จึงขอฝากเตือนด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ปกปิดหรือไม่ใช่เรื่องที่สามารถตรวจสอบได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังจะขยายผลไปสู่ขบวนการทั้งหมดอยู่ รวมไปถึงพระภิกษุสงฆ์ ที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ด้วยว่าสิ่งที่กระทำอยู่นี้มีความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่ใช่บุคคลธรรมดา หากพบเจอก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน