ตำรวจนำพระวัดดังเชียงใหม่ส่งฟ้องศาล หลังปาร์ตี้ตั้งวงหมูกระทะแกล้มเบียร์ ทั้งหมดยืนยันยังไม่ลาสิกขา ด้านเจ้าคณะอำเภอสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ นำกำลังเข้าตรวจสอบกุฏิสงฆ์ภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการจัดปาร์ตี้ล้อมวงกินหมูกระทะ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (29 ส.ค.64) หลังมีการร้องเรียนจากชาวบ้าน และจากการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน พบเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัดรวม 6 รูป และ ฆราวาสอีก 2 คน กำลังนั่งล้อมวงจัดปาร์ตี้หมู อีกทั้งพบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุ จึงได้มีการดำเนินคดี และช่วงเช้าของวันนี้ (30 ส.ค.64) เวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา ทางเจ้าอาวาสและพระลูกวัดทั้งหมดได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการปล่อยตัว จากนั้นทั้งหมดได้นังรถยนต์ส่วนตัวและรถตู้ออกจากสถานีตำรวจในทันทีหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย
โดยในส่วนของรายชื่อพระสงฆ์และฆราวาสที่ถูกดำเนินคดีประกอบด้วย พระครูปลัดสุรเดช อายุ 34 ปี, พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร อายุ 41 ปี , พระอธิษฐณัฏฐ์ อายุ 34 ปี , พระภานุกร อายุ 42 ปี , พระใบฎีกายนนนท์ อายุ 35 ปี , พระทักษิณ อายุ 36 ปี , นายจรัสวลี อายุ 23 ปี และ นายสหการ อายุ 25 ปี ในข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุ่มหรือทำกิจกรรม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือสถานที่อื่นในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 60/2564 และ พรก.ฉุกเฉินฯ มีของกลางเป็นกระป๋องเบียร์เปิดแล้ว จำนวน 5 กระป๋อง และ ที่ยังไม่ได้เปิดอีก 3 กระป๋อง และ เครื่องดื่มไวน์อีก 3 ขวด ที่ยังไม่ได้เปิด
นอกจากข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดแล้ว ในส่วนของพระครูปลัดสุรเดช , พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร , พระอธิฐณัฏฐ์ และ นายสหการ ยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอันเป็นความผิดตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ในเวลาต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามกับทางเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เบื้องต้นทราบ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และขณะนี้กำลังจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยในส่วนของพระทั้งหมดในขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและจะได้มีการส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ภายในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ทางด้านพระสงฆ์ทั้งหมดยังจะไม่มีการลาสิกขาแต่อย่างใด
สำหรับความคืบหน้าในส่วนของการดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ให้ข้อมูลว่า หลังมีการจับกุมพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้นำเรื่องปรึกษากับพระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ความว่าความผิดที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่ายอาบัติปาราชิก 4 ที่ประกอบด้วย เสพเมถุน ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) และ กล่าวอวดอุตริ จึงไม่เข้าขั้นต้องลาสิกขาตามธรรมวินัย ขณะที่พระสงฆ์ทั้งหมดไม่สมัครใจลาสิกขา ทำให้ไม่สามารถบังคับได้
ส่วนในการดำเนินคดี แม้จะไม่ลาสิกขา แต่พนักงานสอบสวนสามารถนำตัวส่งฟ้องผู้ต้องหาขณะยังครองผ้าเหลืองได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข ซึ่งพนักงานสอบสวนจะส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจับกุม