เชียงใหม่ กำจัดขยะกระทงยี่เป็งกว่า 20 ตัน เพื่อคืนความสวยให้แก่แม่น้ำปิงและสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี
วันที่ 22 พ.ย. 64 ที่ ประตูระบายน้ำป่าแดด หมู่ที่ 3 ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำส่วนราชการ ประชาชน และจิตอาสา ร่วมกิจกรรมการกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลจากงานลอยกระทงในลำน้ำปิง ภายใต้โครงการ “ เมืองสะอาดคนในชาติมีสุข” ซึ่งโครงการชลประทานเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลป่าแดด ได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีช่วงหลังเทศกาลลอยกระทง เพื่อเก็บเศษขยะและกระทงที่ตกค้างอยู่ในแม่น้ำปิง ไม่ให้เกิดการเน่าเสียและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในทุกๆ ปี หลังเสร็จสิ้นจากเทศกาลลอยกระทง หรือ งานยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ จะมีเศษขยะที่ตกค้างเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกระทงที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนำมาลอยในแม่น้ำปิง และลำคลองต่างๆ ในเขตเมืองเชียงใหม่ ซึ่งกระทงและขยะเหล่านี้จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง และมากองรวมกันอยู่เป็นจำนวนมากที่บริเวณประตูระบายน้ำป่าแดด โดยเจ้าหน้าที่จะทำการกั้นกระทงและขยะไม่ให้ไหลผ่านไปยังประตูระบายน้ำ จากนั้นจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสา มาร่วมกันกำจัดขยะที่ตกค้างเหล่านี้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นสาเหตุของการเกิดน้ำเน่าเสียและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้มีการเร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศและทางน้ำ เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน
ด้าน นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่ได้ดำเนินการสุ่มตรวจปริมาณจำนวนของกระทงในปีนี้ พบว่ามีจำนวนปริมาณขยะจากกระทง จำนวน 20 ตัน ในขณะที่ปีที่แล้วมีกว่า 23.04 ตัน นั่นหมายถึงว่าในปีนี้มีขยะจากกระทงลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ของจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง 1 ครอบครัว 1 กระทง หรือคู่รักคู่ละ 1 กระทง ประกอบกับยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวออกมาลอยกระทงน้อยลง โดยในส่วนของขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลจากงานลอยกระทงในลำน้ำปิง จะถูกนำไปทำลายด้วยการฝังกลบเป็นหลัก เนื่องขยะที่มาจากกระทง จะมีส่วนประกอบของเหล็ก ตะปู เข็มหมุด ลวด และโฟม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นปุ๋ยหมักได้ เนื่องจากเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ยากและยังเป็นอันตรายอีกด้วย
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่