สปสช. จ่ายเงินช่วยเหลือผู้แพ้วัคซีนโควิด-19!!! เฉพาะประชาชนที่ฉีดกับทางภาครัฐเท่านั้น!

171

สปสช.แจง จ่ายช่วยเหลือเบื้องต้นผู้แพ้วัคซีนโควิด-19 เฉพาะที่ฉีดประชาชนฉีดฟรี-ไม่เสียค่าใช้จ่ายเท่านั้น ส่วนวัคซีนทางเลือกที่ รพ.เอกชน เรียกเก็บเงินค่าฉีดจากผู้รับบริการ ไม่อยู่ในเกณฑ์ขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจาก สปสช.

6tGqru.jpg

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ประชาชนสัญชาติไทยทุกสิทธิการรักษาพยาบาลที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของรัฐ หรือวัคซีนที่หน่วยงานและองค์กรจัดหามาให้บริการโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน หากเกิดความเสียหายขึ้น ประชาชนสามารถยื่นคำร้องให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกรายที่ยื่นเรื่องจะได้รับเงินช่วยเหลือ ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งหากเข้าเกณฑ์ของ สปสช. ยืนยันว่าจะมีการจ่ายช่วยเหลือเบื้องต้นให้ทุกกรณี ในส่วนของวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกที่ทางโรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้จัดหา ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งอยู่ในช่วงการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่ประชาชนจ่ายเงินซื้อไว้ ถือว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้รับบริการ ดังนั้นในกรณีนี้ หากเกิดความเสียหายขึ้นจะไม่ครอบคลุมตามเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของ สปสช.

ส่วนกรณีของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทย ที่ประกาศให้หน่วยงานหรือองค์กรไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการทำเป็นสวัสดิการให้พนักงาน ซื้อวัคซีนโควิดจากราชวิทยาลัยฯ และสภากาชาดไทย โดยหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่ซื้อไปต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรีโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน รวมถึงกรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทยนำวัคซีนโควิดไปฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ดังนั้นหากผู้รับบริการเกิดปัญหาจากการได้รับวัคซีนโควิด-19 นั่นหมายความว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากทาง สปสช. ตามเกณฑ์ แต่ถ้ามีหน่วยงานใดซื้อวัคซีนโควิด-19 จากราชวิทยาลัยฯ และสภากาชาดไทยแล้วไปเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน ตรงนี้ทาง สปสช. ก็จะไม่เกี่ยวข้อง

เลขาธิการ สปสช. กล่าวอีกว่า ในส่วนของวัคซีนซิโนฟาร์มที่มีประกันค่าเสียหายไว้นั้น ตรงนี้จะถือว่าเป็นคนละส่วนกันกับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของ สปสช. ฉะนั้นสมมติว่ามีผู้เสียชีวิตจากการรับวัคซีนซิโนฟาร์ม ทาง สปสช. ก็จะต้องจ่ายในอัตราตามหลักเกณฑ์ เรายึดหลักว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่ควรต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อไหร่ หน่วยงาน องค์กร หรือสถานพยาบาลที่ผู้รับบริการไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องรับผิดชอบ

ทั้งนี้ในกรณีได้รับความเสียหายหรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด-19 ที่ภาครัฐจัดให้ หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือ คือ กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย โดยสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช.ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่ สปสช.

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ประชาชนสัญชาติไทยทุกสิทธิการรักษาพยาบาลที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของรัฐ หรือวัคซีนที่หน่วยงานและองค์กรจัดหามาให้บริการโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน หากเกิดความเสียหายขึ้น ประชาชนสามารถยื่นคำร้องให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกรายที่ยื่นเรื่องจะได้รับเงินช่วยเหลือ ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์การพิจารณา ซึ่งหากเข้าเกณฑ์ของ สปสช. ยืนยันว่าจะมีการจ่ายช่วยเหลือเบื้องต้นให้ทุกกรณี ในส่วนของวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกที่ทางโรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้จัดหา ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งอยู่ในช่วงการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่ประชาชนจ่ายเงินซื้อไว้ ถือว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้รับบริการ ดังนั้นในกรณีนี้ หากเกิดความเสียหายขึ้นจะไม่ครอบคลุมตามเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของ สปสช.

ส่วนกรณีของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทย ที่ประกาศให้หน่วยงานหรือองค์กรไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการทำเป็นสวัสดิการให้พนักงาน ซื้อวัคซีนโควิดจากราชวิทยาลัยฯ และสภากาชาดไทย โดยหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่ซื้อไปต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรีโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน รวมถึงกรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทยนำวัคซีนโควิดไปฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ดังนั้นหากผู้รับบริการเกิดปัญหาจากการได้รับวัคซีนโควิด-19 นั่นหมายความว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากทาง สปสช. ตามเกณฑ์ แต่ถ้ามีหน่วยงานใดซื้อวัคซีนโควิด-19 จากราชวิทยาลัยฯ และสภากาชาดไทยแล้วไปเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน ตรงนี้ทาง สปสช. ก็จะไม่เกี่ยวข้อง

เลขาธิการ สปสช. กล่าวอีกว่า ในส่วนของวัคซีนซิโนฟาร์มที่มีประกันค่าเสียหายไว้นั้น ตรงนี้จะถือว่าเป็นคนละส่วนกันกับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของ สปสช. ฉะนั้นสมมติว่ามีผู้เสียชีวิตจากการรับวัคซีนซิโนฟาร์ม ทาง สปสช. ก็จะต้องจ่ายในอัตราตามหลักเกณฑ์ เรายึดหลักว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่ควรต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อไหร่ หน่วยงาน องค์กร หรือสถานพยาบาลที่ผู้รับบริการไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องรับผิดชอบ

ทั้งนี้ในกรณีได้รับความเสียหายหรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด-19 ที่ภาครัฐจัดให้ หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือ คือ กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย โดยสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช.ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่ สปสช.

สาขาเขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต โดยมีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร. 1330

ดาวน์โหลดแแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที่ https://www.nhso.go.th/storage/files/841/001/nhso_VaccinCovid19.pdf

สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330

ที่มา : สปสช. สำนักงานหลักสุขภาพแห่งชาติ https://www.nhso.go.th/news/3379

6tGUU0.jpg