ระทึก! ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ติดถนนกลางเมืองเชียงใหม่ พบเป็นอาคารเช่าเปิดขุดบิตคอยน์ทั้งวันทั้งคืน ชุดขุดบิตคอยน์เสียหายกว่า 72 ชุด มูลค่าเบื้องต้นกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (3 ธ.ค.64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศกิจเทศบาลนคร และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำกำลังพร้อมอุปกรณ์ และรถดับเพลิง เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ภายในตัวอาคารพาณิชย์ เลขที่ 359 – 359/1 ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ ถ.มหิดล (ขาออกซูเปอร์ไฮเวย์) ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ โดยที่เกิดเหตุพบเป็นอาคาร 3 ชั้นครึ่ง มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมฉีดน้ำ พร้อมทั้งนำกำลังเข้าไปทำการควบคุมเพลิง ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง และผู้พบเห็นเหตุการณ์ที่ขับรถผ่านถนนสายดังกล่าว
โดยหลังเกิดเหตุผ่านไปประมาณ 20 นาที พบว่ายังคงมีกลุ่มควันไฟอย่างหนาแน่นลอยออกมาจากบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้รถกระเช้า ส่งทีมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงเข้าไปทำการควบคุมเพลิงที่จุดดังกล่าว จนกระทั่งต่อมาประมาณ 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด แต่พบว่าภายในตัวอาคารที่ชั้นดังกล่าว มีทรัพย์สินถูกเพลิงไหม้เสียหายหนัก ซึ่งพบว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ส่วนภายในตัวอาคารดังกล่าวทราบว่าไม่มีคนอยู่ระหว่างเกิดเหตุ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์จนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจึงได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยพบว่าในระหว่างเกิดเหตุนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด แต่มีความเสียหายชุดขุดบิตคอยน์ 72 เครื่อง มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท
ขณะเดียวกันจากการสอบถามทางด้านผู้อยู่อาคารด้านข้างที่เกิดเหตุ ทราบว่า อาคารด้านข้างได้มีการเช่าไว้แต่คนเช่าไม่อยู่ โดยจะมีการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ตลอด ซึ่งทราบเพียงว่าอุปกรณ์ที่เปิดทิ้งไว้นั้นเป็นเซิฟเวอร์ และคอมพิวเตอร์ ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร โดยก่อนเกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านฝั่งตรงข้ามเห็นกลุ่มควันลอยออกมาจากหน้าต่างชั้น 2 ของอาคาร จากนั้นกลุ่มควันได้หนาขึ้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยระงับเหตุ อย่างไรก็ตามในส่วนของสาเหตุที่แน่ชัด และความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ยังอยู่ในระหว่างหารตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง โดยจะได้มีการสอบสวนกับทางเจ้าของอาคารและผู้เช่าอาคารต่อไป
