สภาฯ ไฟเขียว! ตั้งกรรมาธิการศึกษาการเปิด “คาสิโน” ถูกกฎหมาย หวังเป็นแหล่งรายได้ใหม่เข้าประเทศ
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 64 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นด้วย 310 เสียง ไม่เห็นด้วย 9 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียงไม่มี จากจำนวนผู้ลงมติทั้งหมด 329 คน เห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศ จำนวน 60 คน แบ่งเป็นสัดส่วน ดังนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 15 คน และสัดส่วนของพรรคการเมือง จำนวน 45 คน แยกเป็น พรรคเพื่อไทย 13 คน พรรคพลังประชารัฐ 11 คน พรรคภูมิใจไทย 6 คน พรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ พรรคละ 5 คน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคเพื่อชาติ พรรคละ 1 คน พร้อมกำหนดระยะเวลาพิจารณาศึกษาภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลและความจำเป็นในการพิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันงบประมาณหรือรายได้หลักของประเทศไทยมาจากการเก็บภาษีจากประชาชน ปีละประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องแบกรับภาระหนี้ในทุกปีอีกด้วย ดังนั้น สถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) จะเป็นการหาแหล่งรายได้ใหม่จากกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักแสวงโชคชาวต่างชาติเข้าประเทศโดยที่ไม่ต้องลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้แก่ประเทศปีละประมาณ 4 ล้านล้านบาท เพราะประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง ประกอบกับนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความพร้อมด้านการลงทุนและมีประสบการณ์ในการดำเนินสถานบันเทิงครบวงจรระดับโลก (Entertainment Complex) เช่น คาสิโน สวนสนุก (Ferrari World) สนามแข่งรถสูตร 1 (Formula one หรือ F1) โรงแรมระดับโลก ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร เป็นต้น ที่พร้อมเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อันจะนำมาสู่การจ้างงานหลายด้านเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน หรือความมั่นคงของประเทศในทางเศรษฐกิจ สถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นการหาแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ เป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ