เชียงใหม่ เจอคลัสเตอร์นักศึกษามีไทม์ไลน์ไปสถานบันเทิง ติดเชื้อแล้ว 15 ราย

23862

เชียงใหม่ เจอคลัสเตอร์นักศึกษามีไทม์ไลน์ไปสถานบันเทิง ติดเชื้อแล้ว 15 ราย

วันที่ 22 ธ.ค. 64 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 68 ราย ซึ่งต่ำกว่า 100 ราย มา 13 วันแล้ว โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 3 ราย มาจากจังหวัด ลำพูน ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร อีก 65 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 19 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์นักศึกษาที่มีไทม์ไลน์ไปสถานบันเทิงต่าง ๆ 12 ราย (รวมแล้ว 15 ราย) , คลัสเตอร์ร้าน SOPA Café ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 7 จำนวน 2 ราย, คลัสเตอร์บริษัท CM Metal Supply ตำบลไชยสถาน อำเภอสารภี 2 ราย, คลัสเตอร์บริษัทมิตซูแสงชัย (ระบาดรอบใหม่ ธันวาคม 2564) 1 ราย, คลัสเตอร์ร้านมนตรี สี่แยกข่วงสิงห์ ตำบลช้างเผือก 1 ราย และคลัสเตอร์ร้านอาหารแมซ ซอยโรงแรมเชียงคำ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 1 ราย ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว

ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 8 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ 3 ราย และคลัสเตอร์บริษัทนอร์ทเทิร์นแอดไวซ์เซอร์ สันทราย 2 ราย ขณะที่การติดเชื้อในกลุ่มครอบครัว ไม่พบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอประกาศสถานที่เสี่ยง 6 พื้นที่ โดย 5 พื้นที่แรก เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์กลุ่มนักศึกษาที่มีไทม์ไลน์ไปร้านต่าง ๆ โดยจะประกาศร้านที่พบผู้ติดเชื้อที่มีประวัติไปใช้บริการ จำนวน 2 รายขึ้นไป ประกอบด้วย โสภา คาเฟ่ ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 7 ตำบลสุเทพ วันที่ 9 และ 13 ธันวาคม, พอใจ บาร์ ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 7 ตำบลสุเทพ วันที่ 14 และ 17 ธันวาคม, ร้านปิ้งย่างหม่าล่า Hot6 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย วันที่ 16 ธันวาคม, ร้านบางขวาง คาเฟ่ ซอยวัดอุโมงค์ ตำบลสุเทพ วันที่ 15 และ 18 ธันวาคม และร้านเลอ เนิร์ฟ คาเฟ่ ซอยหลังตึก CM คอมพิวเตอร์ ตำบลช้างเผือก วันที่ 6-19 ธันวาคม

อีก 1 พื้นที่ คือ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่าง มนตรีเชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม โดยขอให้ผู้มีประวัติเดินทางไปหรือใช้บริการหรือสัมผัสกับพนักงาน ตามวันที่ดังกล่าว สังเกตอาการ 14 วัน นับจากวันสัมผัสเสี่ยงวันสุดท้าย และหากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง

สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย วันนี้ เป็นชายไทย อายุ 67 ปี โรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไตวาย ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ชัดเจน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน โดยวันที่ 9 ธันวาคม เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ หายใจเหนื่อย ตรวจ RT-PCR ยืนยันพบว่าติดเชื้อ รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลเชียงใหม่เมดิคอลเซ็นเตอร์ วันที่ 19 ธันวาคม มีอาการมากขึ้น เสียชีวิตลงในวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 17.40 น.

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนเคร่งครัดในมาตรการการป้องกันโรคส่วนบุคคล โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ เนื่องจากขณะนี้เริ่มพบการระบาดคลัสเตอร์ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เปิดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านแล้ว จำนวนหลายราย และหลายร้านด้วยกัน พร้อมขอเน้นย้ำว่าหากมีอาการเบื้องต้นของสายพันธุ์ Omicron คือ แรกเริ่มมักมีน้ำมูก จาม ปวดหัว ต่อมาอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ บางคนมีเหงื่อออกตอนกลางคืน ถ้ามีอาการเหล่านี้ห้ามไปฉลองโดยเด็ดขาด อยู่บ้านแล้วเข้ารับการตรวจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ส่วนผู้ที่เคยไปพื้นที่เสี่ยงมา ควรรีบตรวจ ATK แม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้วก็ไม่ควรประมาท ซึ่งวัคซีนที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันได้มากเพื่อต่อต้านสายพันธุ์ Omicron ต้องฉีดให้ครบ 3 เข็ม