สธ.ขอประชาชน งดไปสถานที่เสี่ยง เลี่ยงรวมตัว ป้องกันติดเชื้อหลักหมื่น หลังแจ้งเตือนโควิดเป็นระดับ 4

714

สธ.ขอประชาชน งดไปสถานที่เสี่ยง เลี่ยงรวมตัว ป้องกันติดเชื้อหลักหมื่น หลังแจ้งเตือนโควิดเป็นระดับ 4

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า ขณะนี้การติดเชื้อโควิด 19 ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากเป็นไปตามคาดการณ์ หากไม่มีมาตรการหรือความร่วมมือของประชาชน อาจติดเชื้อรายวันเกินหมื่นคนในเร็ววันนี้ แต่การเสียชีวิตยังมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น แม้สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อย แต่กลุ่มเสี่ยงยังมีโอกาสเสียชีวิตได้ จึงต้องขอให้ผู้ที่ยังไม่รับวัคซีนหรือถึงกำหนดรับวัคซีนมารับวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ส่วนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีการเดินทาง หรือเกิดคลัสเตอร์ เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่ทำผิดมาตรการ การมีกิจกรรมฉลองช่วงปีใหม่ งานเลี้ยงงานบุญ ดังนั้น หลังกลับจากปีใหม่ขอให้เน้นทำงานที่บ้านในช่วงสัปดาห์แรก หากจำเป็นต้องกลับเข้าไปทำงานให้ตรวจ ATK อย่างน้อย 2 ครั้งห่างกัน 3 วัน กรณีผลบวกให้ติดต่อสายด่วน 1330 เพื่อลงทะเบียนรับยา อุปกรณ์ และติดตามการรักษา

นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับการประกาศแจ้งเตือนภัยโควิดระดับ 4 เพื่อขอความร่วมมือ คือ 1.งดไปสถานที่เสี่ยงที่ระบบระบายอากาศไม่ดี แออัด ไม่ใส่หน้ากาก งดรับประทานอาหารและดื่มสุราในร้าน 2.หลีกเลี่ยงกิจกรรมรวมตัวจำนวนมาก 3.เดินทางข้ามจังหวัดเท่าที่จำเป็น ขอให้งดโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท แต่หากมีความจำเป็นขอให้ระมัดระวัง ซึ่งขนส่งสาธารณะมีมาตรการเข้มงวด ทั้งใส่หน้ากาก ตรวจ ATK กรณีใช้เวลาโดยสารนาน  และ 4.งดเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากต่างประเทศมีการระบาดสูง และผู้เดินทางกลับมาติดเชื้อจำนวนมาก และช่วงนี้ขอให้ป้องกันตนเองด้วย VUCA ส่วนมาตรการทางกฎหมาย เช่น การปรับพื้นที่สี หรือการปิดสถานที่ต่างๆ ศบค.จะมีการประชุมเพื่อปรับมาตรการวันที่ 7 มกราคม 2565 ต่อไป

“สถานที่เสี่ยงมี 3 ปัจจัย คือ ระบบระบายอากาศไม่ดี คนรวมตัวจำนวนมาก และไม่ใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้น โรงงานที่มีระบบระบายอากาศดี เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ไม่จับกลุ่มรับประทานอาหารหรือสูบบุหรี่ร่วมกัน ไม่ถือเป็นสถานที่เสี่ยง หากพบผู้ติดเชื้อไม่แนะนำให้ปิดโรงงาน เพราะเสี่ยงคนงานกระจายตัวกลับบ้านไปแพร่เชื้อ แต่ให้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เช่นเดียวกับโรงเรียนก็ไม่ใช่สถานที่เสี่ยง เพราะมีมาตรการดูแลอย่างดี คัดกรองบุคลากรทางการศึกษาเป็นระยะ แต่ต้องลดความเสี่ยงจุดรับประทานอาหารและการรวมตัวทำกิจกรรม”นพ.โอภาสกล่าว