ครม.เคาะปรับแก้กฎกระทรวง ต่างด้าวต้องการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต้องพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจ และผ่านการทดสอบภาษาไทย
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ว่า ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบการขอสัญชาติไทย การแปลงสัญชาติเป็นไทย การสละสัญชาติไทย การกลับคืนสัญชาติไทย และค่าธรรมเนียม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง พ.ศ.2510 ออกตามความในพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1.กำหนดสถานที่ยื่นคำขอมีสัญชาติไทย การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอกลับคืนสัญชาติไทย และการขอสละสัญชาติไทย ดังนี้ 1)ผู้มีชื่อตามทะเบียนราษฎรในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่กรมการปกครอง 2)ผู้มีชื่ออยู่ในจังหวัดอื่นนอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่จังหวัด 3)ผู้มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ ให้ยื่นคำขอที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่
2.กำหนดเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ ดังนี้ 1)หญิงต่างด้าวขอมีสัญชาติไทยตามสามี ให้ยื่นคำตามแบบ สช.1 พร้อมหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัว ใบสำคัญการสมรส รูปถ่าย 2)คนต่างด้าวขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ให้ยื่นคำขอตามแบบ สช.2 พร้อมหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัว รูปถ่าย หลักฐานการประกอบอาชีพ หลักฐานการศึกษา 3)ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่คนต่างด้าวที่เป็นคนไร้ความสามารถ ผู้เยาว์ หรือเป็นบุตรบุญธรรมของคนสัญชาติไทย ให้ยื่นคำขอตามแบบ สช.3 พร้อมหลักฐาน เช่น สำเนาคำสั่งของศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้อนุบาล หลักฐานของคนไร้ความสามารถ
3.กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน กรณีที่ยื่นต่างประเทศ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง และต้องมีเหตุผลจำเป็นเท่านั้น จากเดิมที่ไม่กำหนดระยะเวลาการพิจารณาและการตรวจสอบคุณสมบัติ
4.กำหนดให้คนต่างด้าวที่ขอแปลงสัญชาติเป็นไทย จะต้องมีความรู้ภาษาไทย ต้องพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ โดยต้องผ่านการทดสอบจากคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ หรือมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ แสดงว่าเป็นผู้การศึกษาเล่าเรียนสถานศึกษาในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จากเดิมที่กำหนดให้จะต้องมีความรู้ภาษาไทย พูดภาษาไทย และฟังไทยเข้าใจได้เท่านั้น
5.กำหนดค่าธรรมเนียม เช่น 1)คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ครั้งละ 10,000 บาท (เดิม 5,000 บาท) 2)คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย สำหรับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้แปลงสัญชาติเป็นคนไทย ครั้งละ 5,000 บาท (เดิม 2,500 บาท) 3)หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ฉบับละ 1,000 บาท (เดิม 500 บาท) 4)คำขอกลับคืนสัญชาติไทย ครั้งละ 2,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)