บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ตั้งศูนย์บัญชาการในไทยหลอกเหยื่อ เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาทต่อเดือน
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ อาคารคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 39 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร. หรือ PCT) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังตรวจค้นทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับจีน จำนวน 6 ราย พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 19 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 79 เครื่อง, ซิมการ์ดโทรศัพท์ 167 อัน, อุปกรณ์กระจายสัญญาณ, เครื่องส่งโอทีพี, อุปกรณ์ที่ใช้ทำเว็บพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ, นาฬิกาหรู 14 เรือน, สมุดบัญชี 10 เล่ม, รถยนต์ 3 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยของกลางทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.พันธนะ เปิดเผยว่า ศปอส.ตร. ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหลบหนีคดีฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์ จำนวน 17 ราย โดยมีกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สตม. เป็นผู้ประสานการปฏิบัติ และสามารถสืบทราบผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว ที่หลบหนีเข้ามาพำนักในประเทศไทย จึงได้ขอศาลอนุมัติหมายค้น ทั้ง 4 จุด ในวันที่ 20 มกราคม 2565 โดยมี 2 จุด เป็นห้องพักในชั้น 3 และ ชั้น 20 ของอาคารดังกล่าว ส่วนอีก 2 จุด อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จากการตรวจค้น พบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์และการทำธุรกรรมทางการเงินร่วมด้วย โดยทำการโอนเงินจากประเทศจีนเข้ามา และโอนเงินส่งไปอีกทอดเพื่อนำเงินออก ซึ่งเป็นบัญชีจีนทั้งหมด ส่วนผู้เสียหายคาดว่ามีหลายร้อยคน โดยเป็นฝคนจีนทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ราย โดยชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร. จะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทยต่อไป
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวอีกว่า จากการขยายผลเบื้องต้น พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีเว็บไซต์การพนันออนไลน์หลัก 6 เว็บ พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน และทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายเบื้องหลังในชั้นที่ 1 และ 2 โดยกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวทำหน้าที่เป็นฝ่ายคอลเซ็นเตอร์ และ หัวหน้าที่ดูแลใน ด้านธุรกรรมการเงิน เข้ามาอาศัยที่คอนโดมิเนียมดัวกล่าว ประมาณ 5 เดือน ถึง 1 ปี ทั้งนี้ ทราบว่ามีคนไทยที่เชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าว โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนเช่าห้องพักราคาเดือนละ 50,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล
ข่าว-ภาพ : POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ