ปกครองสันทราย ลุยตรวจตลาด สอบการใช้จ่ายคนละครึ่ง หลังมีกระแสทุจริตขายสิทธิ์แลกเงินสดหักหัวคิว 10 เปอร์เซ็นต์ แม่ค้าเผยมีลูกค้ามาขอแลกจริง แต่ไม่ยอมให้ เตือนชัดมีความผิด
วันที่ 3 ก.พ. 65 นายบุญญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังลงพื้นที่ตลาดสามแยกสันทราย โดยเข้าตรวจสอบร้านค้าภายในตลาดเพื่อเยี่ยมเยือนและสอบถามพ่อค้าแม่ค้า ในกรณีการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ของรัฐบาล ที่เพิ่งให้ประชาชนลงทะเบียนและใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะที่โลกออนไลน์ทางทวิตเตอร์ มีผู้ใช้ชื่อว่า @CNX_Toppa ได้ทวิตข้อความว่า “รับแลกคนละครึ่ง” หัก 10% ทุกยอดที่คงเหลือ พิกัดสันทราย /สันคะยอม / หนองจ๊อม พร้อมแนบรูปภาพของโครงการคนละครึ่ง กระทั่งมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายฝ่ายเกิดความไม่สบายใจที่โครงการของรัฐบาลกลับถูกพ่อค้าหัวใสนำสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนไปแลกเป็นเงินสดให้ และหากำไรร้อยละ 10 ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยเฉพาะการใช้สิทธิคนละครึ่งไปแลกเป็นเงินสด ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมายเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าส่วนใหญ่ ในตลาดสามแยกสันทราย ไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย โดยมีประชาชนไปใช้สิทธิ์คนละครึ่งตามร้านค้าต่างๆตามปกติ โดยพ่อค้าแม่ค้าส่วนมากบอกว่ามีคนใช้สิทธิ์คนละครึ่งจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้ค้าขายได้มากขึ้น และอยากให้มีโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนแล้ว ยังช่วยให้ร้านค้ามียอดการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
จากการสอบถามทางด้าน แม่ค้าร้านชำรายหนึ่ง (สงวนชื่อ) บอกว่า ที่ผ่านมาเคยมีกรณีที่ลูกค้ามาซื้อสินค้าที่ร้านในโครงการคนละครึ่ง พร้อมยกตัวอย่างว่าเคยมีลูกค้าบางราย เมื่อซื้อสินค้าในราคา 100 บาท จะขอสแกนแลกเป็นเงินเต็มจำนวน 300 บาท ที่เป็นไปตามสิทธิ์เต็มจำนวนต่อวัน และจะขอรับเงินทอนเป็นเงินสด 200 บาท แต่ทางร้านไม่ยอม และให้สิทธิ์เท่าที่ซื้อเท่านั้น
ขณะที่ทางด้าน นายบุญญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ของรัฐบาล โดยเฉพาะกระแสการทุจริตทางโซเชียลว่า ในพื้นที่สันทรายในการขอแลกเงินสด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าอาจจะเคยมี แต่ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะไม่ยอม จึงมาแจ้งเตือนว่าการนำมาแลกเงินสดถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทั้งร้านค้าและผู้แลก ถือว่ามีโทษมีความผิดตามกฎหมาย ส่วนกรณีมีการโฆษณาชวนเชื่อให้แลกเป็นเงินสดทางออนไลน์นั้นมีความผิด ขณะนี้กำลังประสานส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมหลักฐานอยู่ ซึ่งหากพบจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย