พนักงานคอนโด-รีสอร์ตในเชียงใหม่ร้องสื่อ เดือดร้อนหนักหลังไม่ได้เงินเดือนนานเกือบปี เผยเจอปัญหาเดียวกันกว่า 300 คน แถมมีนักลงทุนอีกหลายสิบคนเดือดร้อนหลังร่วมลงทุนแต่กลับไม่ได้เงินตอบแทน
วันที่ 4 ก.พ. 65 รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มพนักงานคอนโดมิเนียมและรีสอร์ตใน จ.เชียงใหม่ กว่า 20 คน พากันหอบหลักฐานเดินทางมายัง สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอคำแนะนำจากพนักงานสอบสวน พร้อมกับร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้หาทางช่วยเหลือ ในกรณีที่ระบุว่าตอนนี้มีกลุ่มพนักงานเกือบ 300 คน กำลังเดือดร้อนอย่างหนักหลังจากที่บริษัทเจ้าของโครงการแห่งหนึ่ง ค้างเงินเดือนและเงินส่วนอื่นๆ มานานนับปี และบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงิน รวมมูลค่าที่ค้างจ่ายประมาณ 50 ล้านบาท
โดยทาง นายชัชวาล อดีตพนักงานโรงแรมรีสอร์ตในเครือบริษัทดังกล่าว บอกว่า เริ่มทำงานในตำแหน่งบริการทั่วไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2562 สองเดือนแรกได้เงินเดือนตรงเวลา แต่หลังจากนั้นเริ่มจ่ายล่าช้า ได้บ้างไม่ได้บ้าง จนสุดท้ายไม่ได้เงินติดต่อนานถึง 7 เดือน มีพนักงานกว่า 70 คน ที่เจอปัญหาเดียวกัน ทางบริษัทอ้างหลายอย่าง เช่น รอเงินกู้จากต่างประเทศ รอระดมทุน แต่ผ่านมานานนับปีก็ยังไม่ได้ เมื่อสอบถามทำให้ทราบว่ากลุ่มพนักงานจากหลายโครงการในเครือเจอปัญหาเดียวกันรวมแล้วเกือบ 300 คน เฉลี่ยเงินที่บริษัทค้างจ่ายทั้งเงินเดือน เงินชดเชยเลิกจ้าง และ ค่าเซอร์วิสชาร์จ คนละประมาณ 1800,000 -200,000 บาท
ปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนของกลุ่มพนักงานของตนเองที่มีอยู่ประมาณ 70 คน ได้รวมตัวกันร้องศาลแรงงาน จนกระทั่งศาลมีคำสั่งให้ทางบริษัททยอยจ่ายเงินให้ กำหนดให้เริ่มจากเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา บางคนได้เดือนแรก แต่เกือบทั้งหมดยังไม่ได้ อ้างเงินรอเงินกู้ จากต่างประเทศ และ อ้างผลกระทบจากโควิด 19 ทั้งที่ปัญหาเกิดขึ้นก่อนสถานการณ์โควิด 19
นายชัชวาล บอกว่า เดือดร้อนมากเพราะมีค่าใช้จ่ายต้องเลี้ยงดูครอบครัวและที่ผ่านมาเครดิตก็ต้องเสีย จึงอยากได้เพียงเงินที่จะต้องได้ตามสิทธิ์ ที่ผ่านมาดำเนินการตามลำดับขั้นตอนทางกฎหมายแต่ก็ยังไม่ได้ ทำมาทุกอย่างแล้ว หมดปัญญาจะทวง จึงนำเรื่องร้องเรียนกับสื่อเพื่อสื่อสารไปถึงบริษัทได้รู้ถึงความเดือดร้อนและขอให้เห็นใจ
นางยุวเรศ อดีตพนักงานอีกคนหนึ่ง บอกว่า บริษัทเริ่มติดค้างเงินเดือนมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2563 และ เลิกจ้างวันที่ 31 ธันวาคม 2563 รวมเงินเดือนค้างจ่ายกับเงินชดเชย เป็นเงินประมาณ 180,000 บาท สุดท้ายไม่ได้เงินตามที่ทางบริษัทตกลงกันไว้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเรื่องของการศึกษาลูกที่ได้วางแผนไว้ และเงินทองที่เก็บไว้เพื่อเป็นเงินสำรองในการศึกษาของลูก อีกทั้งไม่มีเงินชำระหนี้สิน จึงอยากเรียกร้องให้ทางบริษัทรับผิดชอบกรณีนี้ เพียงขอแค่จ่ายเงินให้ตรงตามที่ได้ตกลงกันไว้ และจ่ายตามที่ศาลได้พิจารณาจ่ายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกลุ่มพนักงานที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างและเงินชดเชย ยังมีกลุ่มนักลงทุนอีกนับสิบคนที่เดินทางเข้าลงบันทึกประจำวัน โดยให้ข้อมูลว่าไม่ได้รับเงินตอบแทนจากการลงทุน บางรายไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในคอนโดมิเนียมตามที่ได้ลงทุนไป โดยขณะนี้มีนักลงทุนที่ลงเงินไปคนละ 3-5 ล้านบาท จำนวน 12 คน
ตัวแทนกลุ่มนักลงทุน บอกว่า ทางบริษัทมอบข้อเสนอที่ดี เช่น การันตีผลตอบแทน 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือ บางรายได้ข้อเสนอให้ผลกำไรเดือนละ 20,000 บาท รวมทั้งให้โอนกรรมสิทธิ์ได้ในระยะเวลาสั้น สุดท้ายลงทุนไปเต็มจำนวนหวังผลตอบแทน แต่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายหลายคนที่ลงทุนซื้อห้องคอนโด แต่ไม่ได้รับโอน บางคนไม่ได้กุญแจห้อง บางรายที่มีการทำสัญญาซื้อห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อไปดูห้องก็ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตามที่ทำสัญญา ซึ่งในส่วนของผู้เสียหายลักษณะนี้คาดว่าจะมีจำนวนมาก และแต่ละคนมีการร่วมลงทุนประมาณ 3-4 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของตนมีรายชื่อผู้เสียหายประมาณ 12-13 คน ที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในลักษณะการันตีผลตอบแทน และได้รับผลตอบแทนเพียงในช่วง 2 ปีแรก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับผลตอบแทนและทางบริษัทก็เงียบหายไม่ชี้แจงให้ทราบแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.ทรงกลด จอมใจ รอง ผกก.สส.สภ.หางดง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีการฟ้องคดีต่อศาลแรงงานและมีคำสั่งศาลออกมาแล้ว หากคู่กรณีไปปฏิบัติตามจะเป็นขั้นตอนของการบังคับคดี แต่หากผู้เสียหายรายใดที่เชื่อว่ามีเจตนาฉ้อโกงเข้าข่ายคดีอาญา ก็สามารถเข้าปรึกษากับพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะให้คำแนะนำเพราะแต่ละคนก็จะมีพฤติการณ์ที่แตกต่างกันไป
