กรมควบคุมโรคแนะผู้ปกครอง พาบุตรหลานฉีด “ไฟเซอร์เด็ก” งดออกกำลังกาย-ใช้แรงหนัก หลังฉีดอย่างน้อย 7 วัน
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์สูตรสำหรับเด็ก (Pediatric formulation dose) บรรจุในขวดแก้ว “ฝาขวดและฉลากสีส้ม” ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่สอง ในทวีปเอเชียถัดจากสิงคโปร์ที่ได้รับการส่งมอบวัคซีนสูตรสำหรับเด็กนี้ โดยลอตแรกเข้าถึงประเทศไทยในวันที่ 26 มกราคม 2565 และได้ทยอยจัดส่งอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละประมาณ 3 แสนโดส
กลุ่มเป้าหมาย คือ ใช้ในเด็กอายุตั้งแต่ 5-11 ปี โดยมีแผนการจัดสรร คือ 1.บริการฉีดในสถานพยาบาล สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค คือ 1) โรคอ้วน 2) โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งโรคหืดหอบ 3) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง 4)โรคไตวายเรื้อรัง 5)โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ 6) โรคเบาหวาน และ 7) กลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการช้า รวมทั้งกลุ่มเด็กที่เรียนในระบบโฮมสคูล และกลุ่มที่อยู่นอกระบบการศึกษา 2.การให้บริการฉีดในโรงเรียน สำหรับนักเรียนปฐมวัย และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โดยเริ่มบริการฉีดในนักเรียน ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก่อนเป็นลำดับแรก และชั้นปีอื่นถัดลงไปตามลำดับ สำหรับปริมาณการฉีด คือ 0.2 มิลลิลิตร หรือ 10 ไมโครกรัม วัคซีน 1 ขวดเมื่อเจือจางด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9% ก่อนใช้ สามารถฉีดได้ 10 โดส โดยเว้นระยะเวลาการฉีดห่างกันระหว่าง 3-12 สัปดาห์
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนเข้ารับการฉีด หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาอาการให้หายจนกว่าจะเป็นปกติ สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง อาการยังไม่คงที่ อาจมีอันตรายถึงชีวิตควรเข้ารับการประเมินอาการจากแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับการฉีด ส่วนอาการที่พบได้หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ ปวด บวม แดง เฉพาะที่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีนด้วยเสมอ และอาการดังกล่าว สามารถหายได้เองเมื่อรับประทานยาลดไข้และพักผ่อนให้เพียงพอ หลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์ ผู้ปกครองควรดูแลไม่ให้บุตรหลานออกกำลังกาย ปีนป่าย ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมที่ใช้แรงมาก เป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และหากเกิดอาการรุนแรงหลังรับวัคซีน ได้แก่ เจ็บหน้าอก หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย ใจสั่น ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ปวดหัวรุนแรง อาเจียนทานอาหารไม่ได้หรือซึมไม่รู้สึกตัว ควรพบแพทย์ทันที หรือโทร 1669 เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และกุมารแพทย์ในการตรวจวินิจฉัย รักษาและการติดตามผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย ตามนโยบายการฉีดวัคซีนให้เด็กถ้วนหน้าให้ดีที่สุด ที่ยึดประโยชน์ของผู้ปกครองและประชาชนไทยทุกคนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ขอฝากผู้ปกครองและครูดูแลเรื่องการป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดนเน้นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ หลังเวลาเล่นหรือเมื่อทำกิจกรรมในชั้นเรียน และทำความสะอาดร่างกายเมื่อกลับถึงบ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422