ซื้อคอนโดหรูได้คอนโดร้างกลางเมืองเชียงใหม่ สุดท้ายขอผ่อนคืนเงินดาวน์ ผู้เสียหายร้องทนายสายลุยเตรียมฟ้องคดี ชี้ไม่เป็นธรรม
วันที่ 23 มี.ค. 65 นางสาววัชราภรณ์ วงอินทร์ตา หรือ ทนายฟ้าสายลุย ทนายความในจังหวัดเชียงใหม่ พาทีมข่าวไปดูโครงการก่อสร้างคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จและถูกทิ้งอยู่ในสภาพร้าง มีเพียงเสาและโครงสร้างอาคารที่ก่อสร้างได้ประมาณ 4 ชั้น ทั่วพื้นที่ไม่มีใครอยู่ โดยนางสาววัชราภรณ์ บอกว่าได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นผู้เสียหาย เสียเงินซื้อห้องที่คอนโดมีเนียมแห่งนี้ แต่สุดท้ายกลับได้แต่คอนโดในฝัน
ทั้งนี้ นางสาววัชราภรณ์ ให้ข้อมูลว่า โครงการนี้เริ่มโปรโมตขายในช่วงปี 2562 ระบุเป็นคอนโดเทลสไตล์รีสอร์ต ทำเลดีกลางเมือง เหมาะสำหรับการพักผ่อนและลงทุน เป็นอาคารสูง 8 ชั้น และ มีชั้นใต้ดิน ต่อมาวันที่ 19 สิงหาคม 2562 ลูกความของตนเองได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด 1 ห้อง พื้นที่ 46 ตารางเมตร ในราคา 2,852,000 บาท โดยวางมัดจำ 20,000 บาท และทำสัญญาผ่อนดาวน์เดือนละ 36,780 บาท อีก 20 งวด ตั้งแต่ 19 เมษายน 2562 – 19 เมษายน 2564
โดยที่ผ่านมาได้ผ่อนชำระตามกำหนด แต่กลางปี 2563 ได้ขอปรับลดค่าผ่อนดาวน์เหลือเดือนละ 20,000บาท และขยายเวลาผ่อนชำระ เนื่องจากผลกระทบโควิด 19 โดยสรุปลูกความได้จ่ายมัดจำรวมผ่อนดาวน์จนครบตามสัญญาเป็นเงิน 827,800 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดสร้างอาคารเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาที่ระบุไว้ในวันที่ 31 มีนาคม 2564 ปรากฏว่าทางบริษัทยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและอาคารอยู่สภาพร้างตามที่เห็น ลูกความที่อยู่จังหวัดเชียงรายเดินทางมาดูก็พบว่าคอนโดสร้างไม่เสร็จทำให้เดือดร้อนและผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจซื้อคอนโดหรูแต่กลับได้คอนโดร้าง จึงได้บอกเลิกสัญญาและขอเงินที่ชำระคืนไปทั้งหมด
นางสาววัชราภรณ์ บอกว่า หลังจากนั้นทางบริษัทได้เจรจาขอผ่อนชำระ โดยก่อนหน้านี้ตกลงนัดโอนเงินคืนมาแล้ว 2-3 ครั้ง จำนวน 3 แสนบาท แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่ได้โอนคืน ต่อมาฝ่ายกฎหมายของบริษัทเสนอเงื่อนไขจ่ายก้อนแรก 1 แสนบาท ที่เหลือเดือนละ 6 หมื่นบาท เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงเนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาได้ผ่อนชำระมาตลอด แต่เมื่อทางบริษัทรู้อยู่แก่ใจว่ากิจการมีปัญหา แต่ก็ยังให้ลูกค้าผ่อนต่อไปอีกถึง 9 งวด เป็นเงิน 188,000 บาท และไม่เคยแจ้งปัญหาให้ลูกค้าทราบ สุดท้ายเมื่อไปต่อไม่ได้กลับมาขอผ่อนชำระ ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายฐานผิดสัญญา และ จะดูว่าเข้าข่ายฉ้อโกง และ หลอกลวงผู้บริโภคด้วยหรือไม่ โดยเชื่อว่าอาจมีผู้เสียหายมากกว่านี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทางโครงการ อัปเดตความคืบหน้าการก่อสร้างผ่านเพจ ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ระบุว่าคืบหน้าไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นงานเสาเข็ม 100 เปอร์เซ็นต์ , งานโครงสร้าง 75 , งานสถาปัตยกรรม 25 เปอร์เซ็นต์ และ งานวิศวกรรม 15 เปอร์เซ็นต์
